แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม “Dove” ผุดไอเดียชี้ปัญหาประเด็น “นักเรียนหญิงโดนตัดผม” ในแคมเปญ #LetHerGrow เรียกกระแสจากชาวโซเชียลได้ไม่น้อย
กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างร้อนแรงบนโลกโซเชียล สำหรับแคมเปญ #LetHerGrow จากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม “Dove” ภายใต้การดูแลของบริษัท “Unilever” ที่หยิบเอาประเด็น “นักเรียนหญิงโดนตัดผม” ขึ้นชูในการขับเคลื่อนแคมเปญดังกล่าว ซึ่งรูปแบบและแพลตฟอร์มในการลงสื่อของแคมเปญนี้ ใช้ทั้งสื่อออนไลน์อย่างการโพสต์คอนเทนต์วิดีโอลงในโซเชียลมีเดียและใช้สื่อออฟไลน์ด้วยวิธีลงภาพนิ่งของแคมเปญพร้อมข้อความสุดอิมแพคลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์
แคมเปญ #LetHerGrow ถูกโพสต์ลงครั้งแรกในสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นกระแสไวรัลที่หลายคนพูดถึงและให้ความสนใจในทันที เนื่องจากชาวโซเชียลจำนวนไม่น้อยได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยความรู้สึกที่ว่ามีประสบการณ์ร่วมกับเหตุการณ์ดังกล่าวในอดีต แคมเปญนี้จึงสร้างความเข้าถึงไปในวงกว้างด้วยเวลาเพียงไม่นาน
อีกเหตุผลที่ทำให้แคมเปญ #LetHerGrow จาก “Dove” ได้รับความสนเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่เริ่มหันมาสนใจในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลมากขึ้น ทั้งยังรู้จักการเคารพสิทธิของผู้อื่นและปกป้องสิทธิของตนเอง และการที่ “Dove” หยิบนำประเด็นเรื่องของ “ทรงผม” เข้ามา ก็ทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกว่าแบรนด์ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้น และมีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ทำให้รู้สึกว่าแบรนด์ได้เติบโตไปพร้อมกัน
และแคมเปญยังถูกพูดถึงโดย “คุณเศรษฐา ทวีสิน” ผู้เป็น “CEO บริษัทแสนสิริ” ซึ่งได้ชื่นชมแบรนด์และแคมเปญนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ชื่นชม Unilever บ.ระดับโลกที่กล้าพูดประเด็นสังคม การบังคับตัดผมเป็นประเด็นลึกกว่าที่เห็น เพราะสิ่งที่โดนตัดไม่ใช่แค่ผม แต่เป็นการตัดตอนความมั่นใจ ความเป็นตัวตน ความกล้าที่จะแสดงออกของคนรุ่นใหม่ แค่เรื่องผมยังไม่มีอิสระ แล้วต่อไปเขาเติบโตจะกล้าแสดงจุดยืนต่อเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างไร”
ชื่นชม Unilever บ.ระดับโลกที่กล้าพูดประเด็นสังคม การบังคับตัดผมเป็นประเด็นลึกกว่าที่เห็น เพราะสิ่งที่โดนตัดไม่ใช่แค่ผม แต่เป็นการตัดตอนความมั่นใจ ความเป็นตัวตน ความกล้าที่จะแสดงออกของคนรุ่นใหม่
แค่เรื่องผมยังไม่มีอิสระ แล้วต่อไปเขาเติบโตจะกล้าแสดงจุดยืนต่อเรื่องอื่นๆได้อย่างไร pic.twitter.com/l1viDiK69Z
— Srettha Thavisin (@Thavisin) May 3, 2022
เป้าหมายของแคมเปญนี้ได้นำประเด็นสังคมหยิบขึ้นมาตั้งคำถามชวนตระหนักว่า “เวลาเด็กผู้หญิงโดนบังคับให้ตัดผม พวกเขาโดนตัดไปแค่ผมจริงเหรอ” เพราะหากมองให้ลึกลงไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาโดนตัดไป มันไม่ใช่เพียงแค่เส้นผมที่สามารถยาวขึ้นมาใหม่ได้ แต่เป็นการตัดความมั่นใจในตนเองของพวกเขาต่างหาก ที่แม้แต่ “ทรงผม” ยังต้องขึ้นกับการตัดสินใจของคนอื่น
อย่างไรก็ตาม นอกจาก “Dove” ที่คอยผลักดันแคมเปญ #LetHerGrow เพื่อรณรงค์ยุติกฎการลงโทษตัดผมนักเรียนแล้ว ด้านชาวเน็ตเองก็ผลักดันแคมเปญนี้ผ่านการแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนด้วยเช่นเดียวกัน
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ: Youtube Dovethailand และ Twitter Thavisin
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “Mercedes Benz” ประกาศเลิกใช้พริตตี้ทุกงานแสดงรถยนต์ในไทย ผุด “Digital Guide” ให้ข้อมูลแทน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: EOS ผุดไอเดีย “นำขนหมออ้อยมาแลกครีม” จัดตั้งโครงการภายในชื่อ “Pubes for the Planet”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ชาวเน็ตลงชื่อถอด “แอมเบอร์ เฮิร์ด” จากหนัง “Aquaman 2” เกิน 3 ล้านคนแล้ว!