ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวในเหตุการณ์นี้ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Boy Mongkonsawas ได้เขียนบันทึกเหตุการณ์ครั้งนึงในชีวิต 8-2-63 ณ Terminal 21 โคราช 17.30 น. เป็นเหตุการณ์ที่ครอบครัวต้องซ้อนตัวในห้าง เพื่อหลบคนร้าย เป็นนาทีชีวิตที่ต้องเผชิญ
โดยระบุว่า “ได้ยินเสียงปืน และคนวิ่งหนีกันคนละทิศละทาง ผมและภรรยาเลยได้รีบพากันวิ่งเข้า รร.Anny talk เพราะลูกเรียนอยู่ แล้วพากันเข้ามาหลบ มีเด็ก 8 คน ผู้ใหญ่ 17 รวม 25 คน แล้วได้ไปหลบในห้องเก็บของ มืดมากมีไฟแค่ดวงเดียว ผู้ใหญ่ทุกคนมีสติดี โดยเฉพาะคุณครู พาเด็กเล่นทั้งปั้นดินน้ำมัน เล่านิทาน เปิดการ์ตูนเล่นมายากล พากล่อมนอน เด็กบางคนผู้ปกครองเข้าห้างมาไม่ได้ คงห่วงลูกแทบขาดใจ และได้บอกเด็กๆ ว่าข้างนอกไฟดับ”
เข้ามาหลบใน รร Anny talk
ซุ่มดูคนร้าย
เด็กน้อยพากันปวดฉี่
หลบกันก่อนนะเด็กๆ
เหล่าทีมคุณครูสติดีมากๆ
พากันหลบเงียบๆนะ สู้ๆ
“เวลาผ่านไปนาน เด็กเริ่มหิว ไม่มีน้ำขนมติดมา เสียงเด็กก็เริ่มจะดังขึ้น กลัวก็กลัวว่าคนร้ายจะได้ยิน คุณครูผู้ปกครองก็พากับปลอบเด็ก เวลาผ่านไปจนถึงสี่ทุ่มกว่า จึงได้รับแจ้งว่าจะมีจนท.เข้ามาเคาะประตู แต่คนด้านในไม่ได้ยิน จึงได้เอาที่ดันประตูไว้ออกแล้วได้ออกมาเจอจนท. ตอนนั้นตื่นเต้น เพราะห่วงเด็กๆ เด็กบางคน พ่อไม่ได้อยู่ด้วย พากันอุ้มลูกและเพื่อนลูกเดินตามทางบันไดหนีไฟ จนออกมาได้”
เด็กๆเริ่มหิวกันแล้ว
แต่ก็ทำได้แค่รอ เหล่าคุณครูจึงช่วยกันหาสิ่งของมากั้นประตูเอาไว้
รอกันด้วยความอดทน และความกลัว ภายในห้องนี้
คูณครูพาเด็กๆเล่น
คุณครูเล่านิทานกล่อมเด็กๆ
ไม่ต้องห่วงนะลูก เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่กำลังเข้ามาช่วย
เหล่าหนุ่มๆช่วยกันเต็มที่ เต็มกำลังที่มีอยู่
“มีจนท.ตะโกนว่าวิ่งๆ ทุกคนพากันวิ่งไปตามทางที่จนท.เตรียมไว้ แล้วได้ขึ้นรถมา ปั๊มน้ำมัน ในใจโล่ง คิดว่าปลอดภัยแล้ว ไม่ถึงห้านาที จนท.ตะโกนว่าหลบๆ วิ่งๆ หมอบๆ สุดเสียง…. บางคนก็หมอบ บางคนก็วิ่งหนีตาย ผมและครอบครัวก็โดนเหยียบล้มทับกัน พอตั้งสติได้ รีบอุ้มลูก พากันวิ่งหลบในห้องน้ำปั๊มน้ำมัน สักครู่นึงได้ยินว่าเหตุการณ์ปกติ เลยรีบจับมือกันเดินข้ามถนนออกจากปั๊มให้เร็วที่สุด ตลอดทางลูกไม่ตกใจมาก แต่ตอนวิ่งจะถามตลอดเลยว่า ไฟดับเค้าต้องวิ่งอย่างนี้หรอคะ พอถึงบ้านหนูขอกินข้าวนิดนึงได้ไหม (พ่อน้ำตาจะไหล) ปลอบลูก…และบอกว่าได้จ้าาาาา”
เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้นว่าให้วิ่ง
พากันวิ่งออกมากันอย่างปลอดภัยได้ในที่สุด
“กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย โดยลุงต้อมมา รับ..ขอบคุณครับ… 23.30 น. ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและหาทางช่วยทุกทาง ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เสี่ยงภารกิจเสี่ยงตาย กราบหัวใจจริงๆครับ ขอบคุณกำลังใจจากครอบครัวครับ…. ปล.นารินเก่งมากในเหตุการณ์นี้”
ขวัญเอ้ยขวัญมานะจ้ะลูก
รายงานจาก ไทยรัฐ จากการสอบถาม คุณมัทนียา ภูมิพัฒน์ อายุ 36 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษของสถาบันสอนภาษา AnnyTalk Kids เปิดเผยว่า สำหรับวิธีที่ทำให้เด็กๆ ไม่ตื่นกลัว ไม่ส่งเสียงร้อง รอจนเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยจนรอดปลอดภัยได้นั้น เพราะส่วนหนึ่งทางสถาบันเองโชคดีที่เป็นสถานที่สอนพิเศษมีหลายห้อง แต่ละห้องมีหลายชั้น แต่ก็กลัวว่าหากคนร้ายเดินผ่านมาแล้วได้ยินเสียงจะเกิดอันตราย จึงตัดสินใจพาเด็กๆ ไปหลบในห้องด้านหลังสุด ซึ่งห้องนี้จะมีกำแพงทั้งหมด 4 ชั้น ส่วนประตูทางเข้าก็เล็กอยู่แล้ว จึงปิดประตูและนำสิ่งของมาวางดันไว้
แต่ระหว่างทางที่จะพาเด็กๆ ไปห้องนั้นจำเป็นต้องปิดไฟเพื่อหลบสายตาคนร้าย จึงบอกกับเด็กๆ อีกว่า “นี่คือชั่วโมงผจญภัยในห้องแห่งความลับ เราจะอยู่ในความมืดกัน” เด็กๆ ก็รู้สึกสนุกและเดินตามมาโดยไม่กลัว
หลังจากมาถึงห้องเก็บของแล้วก็มีครูชาวต่างชาติชวนเล่นกิจกรรม เช่น เล่นมายากล ชวนปั้นดินน้ำมัน พลัดกันเล่านิทานให้ฟัง จนเด็กบางคนหลับไป ส่วนอาหารโชคดีที่ทางสถาบันมีของว่างเตรียมไว้จึงนำออกมาให้เด็กๆ ได้กินรองท้อง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กสงบ เงียบ และมีสมาธิ
ขณะที่ นาธาน แครนเดิล ครูชาวต่างชาติ เปิดใจว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุรุนแรงที่สุดตั้งแต่มาอยู่ประเทศไทย ส่วนตัวรู้สึกตกใจมาก แต่ก็อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาช่วยอย่างรวดเร็ว และขอบคุณครูร่วมสถาบันที่ทุกคนมีสติ ควบคุมสถานการณ์ได้จนทุกคนปลอดภัย และอยากให้ชาวโคราชและทุกคนในจังหวัดอื่นๆ มั่นใจในระบบความปลอดภัยของห้างเทอร์มินอล 21 ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงความบ้าคลั่งของคนคนหนึ่งเท่านั้น.