จากกรณี “ส.ต.ต.” สังกัดควบคุมฝูงชน ขี่บิ๊กไบค์ Ducati พุ่งชน “หมอกระต่าย” ขณะเดินข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา อุบัติเหตุดังกล่าวสร้างความเศร้าสะเทือนใจให้กับผู้เป็นพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย รวมถึงบรรดาคนในวงการแพทย์ ที่ต้องเสียแพทย์ฝีมือดีอนาคตไกลไปอย่างไม่มีกลับ และยิ่งทำให้ทุกคนโศกเศร้ามากขึ้นไปอีก เมื่อทราบว่าการเสียชีวิตของหมอกระต่ายนั้นเกิดขึ้นเพียง 3 วัน ก่อนถึงวันเกิดของเธอ ซึ่งตรงกับวันนี้ (24 มกราคม 2565)
ขณะที่ชาวเน็ตนั้นเดือดจัดไม่แพ้ญาติแท้ ๆ ของหมอกระต่าย เพราะผู้กระทำความผิดกลับเป็น “ผู้มีอำนาจใช้กฎหมาย” เสียเอง และยังทำผิดกฏจราจรและกฎหมายอีกหลายกระทง ทำให้ประเทศไทยเสียบุคลากรมีคุณภาพไปอีกหนึ่งคน และยังเป็นหมอสาขาที่ขาดแคลนอีกด้วย
แต่ความเดือดดาลยังคงทะยานอย่างต่อเนื่อง เมื่อชาวเน็ตได้ข่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว “ส.ต.ต. นรวิชญ์ บัวดก” ผบ. หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก. 1 บก. อคฝ.) ชนหมอกระต่าย โดยไม่ใช้หลักประกัน เนื่องจากให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนสน. พญาไท ในทั้ง 5 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาตามพ.ร.บ. จราจรทางบกฯ ในข้อหานำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง, ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย และไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม) และพ.ร.บ. รถยนต์ฯ ข้อหาฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
ซึ่ง “ส.ต.ต. นรวิชญ์” ก็รับสารภาพว่า ตอนขับขี่ได้เปลี่ยนเลนมาทางขวา ทำให้มองไม่เห็น ประกอบกับขับขี่มาด้วยความเร็ว ย้ำว่าไม่เคยคิดหลบหนีและสำนึกผิด จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก พร้อมได้ก้มกราบพ่อแม่ของหมอกระต่าย เพื่อขอขมาและอโหสิกรรม
ข่าวดังกล่าวทำเอาชาวเน็ตเคืองหนักมาก พากันดัน #ตำรวจมีไว้ทำอะไร พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ พร้อม ๆ กับ #หมอกระต่าย ภายในไม่กี่ชั่วโมง ประกอบกับก่อนหน้านี้มีข่าวของ เพื่อนคนหนึ่งของหมอกระต่าย ได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า…
“หมอกระต่ายกลายเป็นศพนิรนามที่โรงพยาบาลอยู่ 2 ชั่วโมง เพราะตำรวจเก็บหลักฐาน ID ทุกอย่างไว้ที่สน. รู้เรื่องเพราะรพ. อีกที่โทรตามให้ไปอยู่เวร ตำรวจเลยบอกว่าเกิดอุบัติเหตุ แล้วรพ. อาจารย์ก็โทรไปถามฉุกเฉินที่รพ. ต่าง ๆ จนมาเจอที่ราชวิถี”
และมีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่นเข้ามาทวีตต่อ ระบุว่า…
“ถ้าไม่โดนโทรตามไปอยู่เวร คือคงตายไปเฉย ๆ กลายเป็นศพไร้ญาติไม่ทราบชื่อ คนผิดลอยนวล” และ “ปกติแล้วอาสาหรือพยาบาลกู้ชีพจะเก็บเอกสารผู้ประสบอุบัติเหตุมาโรงพยาบาลเอามาให้หมอติดต่อญาติ แต่นี่คือ ไม่มีอะไรเลย ตำรวจเก็บไปหมด อาสาหรือพยาบาลบอกไม่มีเอกสารอะไรเลย ไม่เจอ คิดดูถ้าผู้ตายเป็นคนที่มาทำงานกทม. ไม่มีญาติในกรุงเทพฯ ทำงานฟรีแลนซ์ กี่วันญาติถึงจะรู้ว่าตาย”
และเมื่อวานนี้ (23 มกราคม 2565) ผู้บังคับบัญชาของ “ส.ต.ต. นรวิชญ์” และ “ส.ต.ต.นรวิชญ์” ก็ได้เดินทางไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลของหมอกระต่าย ณ ศาลา 3 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ ด้วย
สำหรับประวัติ “หมอกระต่าย” โดยสังเขป มีชื่อจริงว่า “พญ. วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล” เป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามรอยพ่อของเธอ และมีน้องสาวเป็นจักษุแพทย์เหมือนกัน
ด้วยความมุ่งมั่นและรักในอาชีพแพทย์ จึงไปเรียนต่อเฉพาะทางจักษุวิทยาที่ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ก่อนจะต่อยอดจักษุวิทยาภูมิคุ้มกันอักเสบ และศึกษาต่อเฉพาะทางต่อยอดจอตาและวุ้นตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และล่าสุด “หมอกระต่าย” ก็กำลังจะเข้ารับราชการที่โรงพยาบาลตำรวจอีกด้วย
ที่มาข้อมูล: ไทยรัฐออนไลน์, ผู้จัดการออนไลน์ และ Sanook
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เสียววาบทั้งร้าน! เมื่อ “ตาซาเล้ง” ที่มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวทุกวัน ที่แท้เป็น “ตำรวจปลอมตัว”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ตำรวจเมากร่างเตะหน้าสาวสองวัย 17 ลั่น “กูไม่ชอบกะเทย” เบ่งทำร้ายใครก็ได้ไม่กลัว ล่าสุดโดนสั่งเด้งแล้ว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เด้งแล้ว! ตำรวจเมาชักปืนขู่-ทำร้ายวัยรุ่นหน้าร้านส้มตำที่กำแพงเพชร