กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อว่อนโลกโซเชียล หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Na Naได้โพสต์ข้อความแชร์เรื่องราว ที่ตนและครอบครัวไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และพบว่าในต้มยำมี “คอตตอนบัดใช้แล้ว” จึงได้แจ้งกับทางร้าน และขอไม่จ่ายค่าอาหารรายการที่มีปัญหา แต่กลับโดนร้านโพสต์กล่าวหาว่าเป็นมิจฉาชีพมาหลอกกินฟรีซะงั้น!
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “หายนะมื้อกลางวัน อ้วกแทบพุ่ง!!! ไม่เคยโพสวิจารณ์ธุรกิจหรือสินค้าใดอันนี้ครั้งแรก! นั่งคิดอยู่นานว่าเราควรพิมพ์ไหม แต่มันคาใจค่ะ มันคาใจ! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์พาครอบครัวและเด็ก ๆ ไปเที่ยวร้านอาหาร มีบ่อปลาบรรยากาศดี อาหารอร่อยให้เด็กให้อาหารปลาและผู้ใหญ่ทานอาหารกัน เป็นที่ที่เคยมานะคะ เด็ก ๆ ชอบดูปลา ให้อาหารปลา
เราเข้ามานั่งรอ 10 นาที (ลูกค้าหลายโต๊ะบริการไม่ค่อยทั่วถึงพอเข้าใจได้รอได้คะเพราะมีปลาล่อเด็ก ๆ) และสั่งอาหารไปมากกว่า 10 จาน สั่งจำพวกตำ ยำ ทอด และคุณป้าสั่งต้มยำทะเล 1 ถ้วย อาหารรสชาติใช้ได้ค่ะ ทุกคนบนโต๊ะชมเราคนพามาก็ดีใจทุกคนชอบ กินอาหารโดยรวมไปได้สัก 80% คุณป้าที่สั่งต้มยำทะเลตักด้านก้นถ้วยขึ้นมาถามว่าอะไรนิ สภาพคือหัวสำลีเปื่อยผ่านการใช้งานมาแถมต้มมาด้วย ทุกคนหยุดกินทันที
ไม่ได้โวยวายนะคะ แต่เรียกพนักงานมาเบา ๆ บอกน้องเขาไปว่า “น้องฝากบอกเจ้าของร้านทีว่าพี่เจอไอ้นี่ให้เช็คครัวด้วยน้า” พนักงานรับชามไปพยักหน้า “ครับ ๆ” ด้วยเราเคยทำธุรกิจร้านอาหารมาก่อน การแก้ไขสถานการณ์แบบนี้คือ ลด หรือ แถม ฟรีอะไรสักอย่างให้ลูกค้าสบายใจที่สุด แต่ ผ่านไปสัก 5-10 นาที แม่ครัวเดินถือถ้วยใหม่มาให้และมาแจ้งทางเราว่า “ทางร้านไม่มีใครใช้คอตตอนบัดนะคะ” เรายืนยันว่า “ไม่มีคนใช้แน่นอนค่ะ อาจจะเป็นพนักงานเสริฟมั้งคะ แต่ไม่ได้ว่าคุณนะคะ”
เราตั้งคำถามว่านี่คือสิ่งที่ร้านควรมาอธิบายลูกค้าไหม เราก็บอกเหมือนเดิมว่าเราเจอแบบนี้จริง ๆ ค่ะ และกินอันใหม่ไม่ได้แล้ว ใครจะกินลงคะถ้าเป็นคุณ คุณกินไหมอันนี้คิดในใจแต่ไม่อยากมีปัญหาเลยแค่บอกเก็บเงินค่ะ
เรื่องมันน่าจะจบที่เราไม่รับถ้วยใหม่นั้นและเก็บตังรีฟันถ้วยนั้นออก ไม่ค่ะ! ทางร้านเก็บเต็มทุกจำนวน น้องผู้ชายอีกคนถือบิลมา เราบอกน้องอีกทีว่าเราไม่กินถ้วยนี้ ให้ไปแก้บิลออกด้วยค่ะต้มยำทะเล 120 บาท ราคาไม่แพงหรอกค่ะ แต่เราไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขออนุญาตไม่จ่ายจานนี้ค่ะ…ไม่มีคำขอโทษนะคะจากร้านนี้ ไม่มีค่ะ น้องผู้ชายถือบิลไปในร้าน 5 นาที กลับมาพร้อมบอกว่า ลบออกไม่ได้ครับ
คุณแม่ตัดสินใจถือบิลไปที่โต๊ะเจ้าของร้าน เดาว่าเจ้าของร้านอาจจะไม่รู้เรื่องเรารอสักพักชักนาน เลยเดินตามไปเจ้าของร้านผู้ชายเจ้าของร้านยืนยันมาเขาเปิดร้านมา 3 ปี ไม่มีคอตตอนบัดในร้านเขาแน่ ๆ ครับ เขามันใจในตัวพนักงานเขาทุกคน และไม่สามารถลบยอดนี้ออกได้
แน่นอนว่าเราก็ยืนยันว่าเราก็ไม่ได้ใช้คอตตอนบัดและไม่มีใครพกคอตตอนบัดมาแน่นอน ใครจะบ้ากินข้าวเสร็จแล้วเเคะหู หรือเเคะหูแล้วกินข้าว แคะฟันว่าไปอย่าง เราขอไม่จ่ายยอดนี้เพราะมันไม่แฟร์ เงินไม่เยอะคะมาเถียงแค่ 120 บาท เถียงเป็น 20 นาทีมันไม่คุ้มค่ะ และไม่เคยเอ่ยปากกินฟรีหรือแถมอะไรทั้งนั้น แต่จะไม่จ่ายจานนี้ที่เราจะอ้วกแตก!
เจ้าของร้านบอกว่า”ถ้าผมไม่เก็บยอดนี้ผมก็ต้องตัดเงินเดือนลูกน้องสิครับ” แล้วนี่มันเรื่องของลูกค้ากับพนักงานพี่ไหมคะถามหน่อย? เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องพี่กับลูกค้าไหมคะ? เลือดฝาดขึ้นหน้าเลยจ้า แต่ไม่อยากทะเลาะคะเด็กๆรอนานแล้วเรายืนยันไม่จ่าย เจ้าของร้านงัดไม้ตายบอกเรา “ผมลบออกให้ก็ได้ครับเพราะผมเชื่อใจพี่นะผมถึงลบออกให้” …เราไม่พูดต่อแล้วคะ จ่ายจบแค่นี้ เสียดายลืมถ่ายบิล 1,1XXบาท คือเป็นคุณคนอ่านจะคาใจไหมคะ? คำขอโทษสักคำก็ไม่มี #ร้านแบบไหนถามใจเธอดู #เข็ดจ้าเข็ด #ฝากแชร์เป็นอุทาหรณ์ค่ะ“
แต่ที่พีคกว่านั้น คือฝั่งร้านอาหารเองก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีนี้เช่นกัน โดยกล่าวหาฝ่ายลูกค้าว่าเป็นมิจฉาชีพ มาหลอกกินอาหารฟรี (ซึ่งล่าสุดทางร้านได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว) โดยระบุว่า
“ขอชี้แจงและเตือนให้พวกพ้องผู้ประกอบการร้านอาหารระวัง เหล่าพวกมิจฉาชีพ หลอกกินอาหารฟรีหรือแกล้งทำให้ร้านเสียหายในทุก ๆ กรณี ทางเราเข้าใจดีว่าร้านอาหารที่มีชื่อเสียงต้องพบเจอปัญหาแบบนี้กันทุกร้าน กลั่นแกล้งทุกช่องทางเพื่อที่จะได้กินฟรีหรือขอส่วนลด หรือทำให้เสียชื่อเสียงไม่ว่าจะเจตนาใด ๆ ทางร้านขอชี้แจงเพื่อนพ้องผู้ประกอบการให้ระมักระวังมิจฉาชีพประเภทนี้ เพราะเราเจอมาแล้วเมื่อวาน #ทางเราได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพที่ทำให้ทางร้านเสียหายเหล่านี้แล้ว เพื่อจะได้ไม่ไปสร้างความเสียหายกับร้านอื่นอีก”
อ่านความคิดเห็นของชาวเน็ตเพิ่มเติมได้ที่โพสต์ด้านล่างนี้เลย และสุดท้ายแล้วดราม่านี้จะลงเอยอย่างไร เราทุกคนคงต้องปูเสื่อรอชมไปพร้อม ๆ กัน!