World of buzz เผยเรื่องราวของกรณีที่กำลังตกเป็นข่าวและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมญี่ปุ่น หลังจาก คาโตะ ซาริ (Kato Sari) นางแบบสาว เพิ่งออกมาประกาศผ่านชาแนลยูทูปว่าเพิ่งหย่าขาดจากสามีวัย 36 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ กลับมาครองสถานะโสดอีกครั้ง ทั้งที่เธอเพิ่งแต่งงานกับเขาได้ไม่ถึงครี่งปี ส่วนสาเหตุนั้นก็เพราะเขาจนเกินไป และไม่เหลือเงินมาเปย์ให้เธออีกต่อไป
source: wob
รายงานเผยว่า ซาริ สานความสัมพันธ์กับสามีในเดือนพฤษภาคม 2562 ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกันอย่างรวดเร็วในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม งานแต่งที่ว่าเร็วแล้ว ยังไม่ไวเท่างานหย่านะจ้ะ โดยเธอตัดสินใจแยกทางกับชายคนนี้หลังแต่งงานได้ 1 สัปดาห์เท่านั้น และเพิ่งเสร็จสิ้นกระบวนการหย่าร้างไปเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563
ความจริงปรากฏว่าซาริเลือกที่จะทิ้งอดีตสามี โดยอ้างว่าเขานั้นจนเกินไป ไม่สามารถให้เงินแก่เธอได้อีก ทั้งที่แฟนหนุ่มเคยใจกว้างกับเธอมาก ถึงขั้นที่ปล่อยให้เธอใช้เงินของเขาหมดไปถึง 1 พันล้านเยน (ราว 275 ล้านบาท) ภายในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนแต่งงาน แถมยังซื้อแหวนหมั้นมูลค่า 3 ล้านเยน ราว 8.2 แสนบาท ให้เธออีกต่างหาก ซาริมีความสุขกับการถลุงเงินซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ ซื้อรถหรู และข้าวของหรูหราอีกมากมาย แต่เธอก็ต้องฉุนเฉียวอย่างหนัก เพราะหลังจากที่ทั้งคู่จดทะเบียนสมรสกัน สามีกลับมาขอร้องให้เธอเลิกใช้จ่ายเงินไปกับข้าวของเหล่านี้ โดยเขาบอกว่าตัวเองจนมาก ไม่เหลือเงินจะให้เธออีกต่อไปแล้ว แถมบริษัทของเขาก็กำลังเผชิญกับปัญหาด้านการเงินเหมือนกัน
source: wob
ซาริ เผยว่า เธอโกรธผู้ชายคนนี้มาก ไม่เข้าใจว่าทั้งที่เขาปล่อยให้เธอใช้เงินเขามากมายขนาดนั้นก่อนแต่งงานได้ แล้วทำไมหลังแต่งงานถึงทำไม่ได้ นางแบบสาวยังเปรียบการแต่งงานครั้งนี้ว่าไม่ต่างจากการหลอกลวง “ถ้างั้นฉันจะแต่งงานกับเขาไปเพื่ออะไร เขามาหลอกให้ฉันเซ็นชื่อลงกระดาษเนี่ยนะ “
source: wob
ทั้งนี้ ซาริ พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า เธอไม่สนใจผู้ชายจนๆ และตัดสินใจหย่าขาดจากผู้ชายคนนี้ในเวลาเพียงไม่นาน แถมเธอยังได้โพสต์ภาพตัวเองที่แนบชิดอยู่กับขาของผู้ชายคนหนึ่ง และบอกตรงๆว่านี่เป็นผู้ชายคนใหม่ของเธอ
อนึ่งก่อนหน้านี้ ซาริเคยตกเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์มาแล้ว หลังจากที่เธอเคยบอกว่า “ความสุขสามารถซื้อได้ด้วยเงิน” และ “ฉันแต่งงานเพื่อเงิน” ตั้งแต่ก่อนที่จะแต่งงาน โดยมองว่ามันเป็นกรแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมดีแล้ว ในฐานะผู้หญิง เธอต้องทนตั้งครรภ์และคลอดลูก ในขณะที่ผู้ชายไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น ซึ่งทัศนคติของเธอได้เรียกเสียงโจมตีอย่างหนักมากๆ หลายคนต่างเรียกเธอว่าเป็นพวกวัตถุนิยม
