ในประวัติศาสตร์กว่า 67 ปีของ “Billboard Hot 100” มีเพียง 23 วงเกิร์ลกรุ๊ปเท่านั้น ที่สามารถพาเพลงขึ้นอันดับ 1 ได้สำเร็จ โดยมีจำนวนเพลงรวมกันทั้งหมด 44 เพลง ที่เคยครองจุดสูงสุดของชาร์ตนี้ แม้ว่าระยะเวลาระหว่างการครองอันดับ 1 จะห่างกันหลายปีหรือหลายทศวรรษ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงพลังของศิลปินหญิงที่รวมตัวกันในฐานะ “เกิร์ลกรุ๊ป” ได้อย่างชัดเจน
ในบทความนี้ The Joi เลยจะพาเพื่อน ๆ ไปย้อนดูวงเกิร์ลกรุ๊ปที่เคยพาเพลงขึ้นอันดับ 1 ของ “Billboard Hot 100” ในแต่ละยุค ตั้งแต่ยุค 1960s ถึง 2020s พร้อมการเปลี่ยนแปลงของแนวดนตรี และอิทธิพลที่แต่ละวงฝากไว้ในวงการ
ยุค 1960s: ยุคทองของเกิร์ลกรุ๊ป
ยุค 60s ถือเป็นช่วงที่เกิร์ลกรุ๊ปครองชาร์ต “Billboard” อย่างแท้จริง โดยมีเพลงขึ้นมาติดชาร์ตนี้มากถึง 20 เพลง
The Supremes
uDiscoverMusic
The Supremes – “Where Did Our Love Go” (22/08/1964)
The Supremes – “Baby Love” (31/10/1964)
The Shangri-Las – “Leader of the Pack” (28/11/1964)
The Supremes – “Come See About Me” (19/12/1964)
The Supremes – “Stop! In the Name of Love” (27/03/1964)
The Supremes – “Back in My Arms Again” (12/06/1965)
The Supremes – “I Hear a Symphony” (20/11/1965)
The Supremes – “You Can’t Hurry Love” (10/09/1966)
The Supremes – “You Keep Me Hangin’ On” (19/11/1966)
The Supremes – “Love Is Here and Now You’re Gone” (11/03/1967)
The Supremes – “The Happening” (13/05/1967)
Diana Ross & the Supremes – “Love Child” (30/11/1968)
Diana Ross & the Supremes – “Someday We’ll Be Together” (27/12/1969)
The Shirelles
Singersroom.com
The Shirelles – “Will You Love Me Tomorrow” (30/01/1961)
The Shirelles – “Soldier Boy” (05/05/1962)
The Marvelettes
Motownmuseum
The Marvelettes – “Please Mr. Postman” (11/12/1961)
The Crystals
Spotify
The Crystals – “He’s a Rebel” (03/11/1962)
The Chiffons
American Dreams
The Chiffons – “He’s So Fine” (30/03/1963)
The Angels
Utopia Artists
The Angels – “My Boyfriend’s Back” (31/08/1963)
The Dixie Cups
The New York Times
The Dixie Cups – “Chapel of Love” (06/06/1964)
ยุค 1970s: เมื่อเกิร์ลกรุ๊ปเปลี่ยนแนวสู่ Disco และ R&B
หลังจาก “ไดอาน่า รอสส์ (Diana Ross)” แยกทางกับวงเกิร์ลกรุ๊ป “The Supremes” ช่วงยุค 70s ก็มีเพลงจากวงเกิร์ลกรุ๊ปติดชาร์ต “Billboard Hot 100” เพียง 4 วงเท่านั้น
The Honey Cone
The Honey Cone
The Honey Cone – “Want Ads” (12/06/1971)
Labelle
PS Audio
Labelle – “Lady Marmalade” (29/03/1975)
Silver Convention
Staineriksen
Silver Convention – “Fly, Robin, Fly” (29/11/1975)
The Emotions
Billboard
The Emotions – “Best of My Love” (20/08/1977)
ยุค 1980s: เกิร์ลกรุ๊ปในยุคป็อปร็อก
ยุค 80s เกิดเกิร์ลกรุ๊ปที่เล่นดนตรีเองมากขึ้น โดยมี 4 เพลง ที่สามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต “Billboard Hot 100” ได้สำเร็จ
Bananarama
Fist For Women
Bananarama – “Venus” (06/09/1986)
The Bangles
Look At Santa Cruz
The Bangles – “Walk Like an Egyptian” (20/12/1986)
The Bangles – “Eternal Flame” (01/04/1989)
Exposé
Wikipedia
Exposé – “Seasons Change” (20/02/1988)
ยุค 1990s: เกิร์ลกรุ๊ปกลับมาทวงบัลลังก์
ช่วงนี้เกิร์ลกรุ๊ปกลับมาผงาดบนชาร์ต “Billboard Hot 100” อีกครั้ง โดยมีเพลงติดชาร์ตถึง 12 เพลงด้วยกัน ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับยุค 60s มากที่สุด
Wilson Phillips
Spotify
Wilson Phillips – “Hold On” (09/06/1990)
Wilson Phillips – “Release Me” (15/09/1990)
Wilson Phillips – “You’re In Love” (01/09/1991)
Sweet Sensation
Wikipedia
Sweet Sensation – “If Wishes Came True” (01/09/1990)
SWV
Rolling Stone
SWV – “Weak” (10/07/1993)
TLC
Billboard
TLC – “Creep” (28/01/1995)
TLC – “Waterfalls” (08/07/1995)
TLC – “No Scrubs” (10/04/1999)
TLC – “Unpretty” (18/09/1999)
Destiny’s Child
Business Insider
Destiny’s Child – “Bills, Bills, Bills” (17/07/1999)
Divine
Genius
Divine – “Lately” (28/11/1998)
Spice Girls
This Day In Music
Spice Girls – “Wannabe” (22/02/1997)
ยุค 2000s: ปิดตำนานด้วย Destiny’s Child
ต้นยุค 2000s ยังคงเป็นยุคทองของ “Destiny’s Child” โดยพวกเธอพา 3 เพลงของตัวเอง ขึ้นอันดับ 1 ก่อนจะแยกวง
Destiny’s Child
Billboard
Destiny’s Child – “Say My Name” (18/03/2000)
Destiny’s Child – “Independent Women Part I” (18/11/2000)
Destiny’s Child – “Bootylicious” (04/08/2001)
ยุค 2020s: HUNTR/X ปลดล็อกประวัติศาสตร์ใหม่
ในปี 2025 เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเพลง เมื่อ “HUNTR/X” กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกในรอบ 24 ปี ที่ส่งเพลง “Golden” ขึ้นอันดับ 1 บน “Billboard Hot 100”
HUNTR/X
Netflix
HUNTR/X: EJAE, Audrey Nuna & REI AMI – “Golden” (16/08/2025)
จากยุค Motown ถึงยุค Metaverse เพื่อน ๆ คงจะเห็นแล้วว่าเกิร์ลกรุ๊ปได้วิวัฒนาการตามสมัย ทั้งในแง่ของแนวดนตรี เทคโนโลยี และตัวตน โดยแม้จะมีช่วงหายไปจากจุดสูงสุดของ “Billboard Hot 100” แต่การกลับมาของ “HUNTR/X” ในปี 2025 ก็แสดงให้เห็นว่า พลังของเกิร์ลกรุ๊ปยังไม่เคยเสื่อมคลาย และอาจเพิ่งเริ่มต้นในยุคใหม่ของวงการเพลงโลกก็เป็นได้
ที่มาข้อมูล: Billboard
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: พาส่องศิลปินเกาหลีผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวละครใน “K-POP Demon Hunters” แอนิเมชั่นมาแรงบน “Netflix”
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เปิดวาร์ปเจ้าของเสียงร้องของตัวละครใน “K-POP Demon Hunters” การ์ตูนแอนิเมชั่นมาแรงบน “Netflix”
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เมื่อ AI สร้างภาพสมาชิกวง “Huntrix” และ “Saja Boys” จากแอนิเมชั่น “K-POP Demon Hunters” บน “Netflix” ให้กลายเป็นเวอร์ชั่นคนจริง – The Joi
