มีลูกก็เหมือนไม่มี! อาม่าชาวจีนพิโรธยกมรดกเกือบร้อยล้านบาทให้ “หมา-แมว” แทนลูกของตัวเอง หลังถูกทอดทิ้งให้อยู่ตัวคนเดียว
Sina/อาม่า “แซ่หลิว”
อาม่า “แซ่หลิว” จากนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กลายเป็นที่พูดถึงของคนบนโลกโซเชียลจีนจำนวนมากในขณะนี้ หลังเธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ “Zonglan News” สำนักข่าวท้องถิ่นของจีน เผยเหตุผลที่ตัดสินใจเขียนพินัยกรรมใหม่ เพื่อยกสมบัติทั้งหมดของตัวเอง ไม่ว่าจะสินทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ารวมกันเกือบร้อยล้านบาทให้กับ “หมาและแมว” แทนลูกในไส้ทั้งสามคน เพราะว่าพวกเขาทอดทิ้งเธอให้อยู่ตัวคนเดียว
Getty images pro/chendongshan: ภาพประกอบบทความ
แม้กระทั่งตอนที่อาม่า “แซ่หลิว” เจ็บไข้ได้ป่วย พวกเขาทั้งสามคนก็ไม่เคยแวะมาดูแลเธอ และแทบจะไม่ได้ติดต่อกับคุณแม่ของพวกเขาเลยอีกด้วย มีเพียงหมาและแมวที่อยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลา ทั้งในยามทุกข์และสุข
Getty images/kevinruss: ภาพประกอบบทความ
โดยอาม่า “แซ่หลิว” ยังได้สั่งเสียในพินัยกรรมฉบับใหม่ไว้อย่างชัดเจนว่า หลังจากเธอลาโลกใบนี้ไปแล้ว คลินิกสัตวแพทย์ในพื้นที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลมรดกและรับผิดชอบสัตว์เลี้ยงของเธอทั้งหมด จะต้องนำเงินทุกบาททุกสตางค์มาดูแลน้องหมาและแมว รวมทั้งลูกหลานของน้อง ๆ สี่ขาแสนน่ารักเหล่านี้ ให้กินดีอยู่ดีจนกว่าเจ้าตูบและเจ้าเหมียวจะเดินทางกลับดาว
Zimmytws’s images: ภาพประกอบบทความ
ขณะที่ “เฉิน ไค (Chen Kai)” เจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่ศูนย์ทะเบียนพินัยกรรมของจีนในกรุงปักกิ่ง ได้อธิบายเกี่ยวกับพินัยกรรมของอาม่า “แซ่หลิว” เพิ่มเติมว่า ตอนแรกอาม่าตั้งใจจะยกมรดกให้กับหมาและแมวโดยตรง แต่นั่นยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายในเมืองจีน ดังนั้น หญิงชราจึงต้องยกมรดกทั้งหมดให้กับนิติบุคคล (คลินิก) ให้เป็นผู้รับผิดชอบทรัพย์สินที่ถูกต้องตามกฎหมาย
Creativa images: ภาพประกอบบทความ
เรื่องราวของอาม่า “แซ่หลิว” ยกมรดกมูลค่ามหาศาลให้กับน้องหมาและแมว นอกจากจะทำให้ชาวเน็ตอ้าปากร้องว้าวแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ชาวเน็ตจีนรู้สึกสงสารเธอเป็นอย่างมาก บ้างก็บอกว่า “อาม่าต้องผิดหวังมากขนาดไหน ถึงได้ตัดสินใจไม่ทิ้งอะไรไว้ให้ลูกเลยสักอย่างเดียว” และ “อาม่าสุดยอด ถ้าในอนาคตลูกสาวไม่มาเหลียวแลฉันแบบนี้ ฉันก็คงยกบ้านให้คนอื่นดีกว่า”
Getty images signature/rifka hayati: ภาพประกอบบทความ
เพราะความกตัญญูต่อพ่อแม่เป็นคุณธรรมข้อใหญ่ในสังคมชาวจีน การที่ลูกหลานไม่ดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่ายังถือว่า มีความผิดตามกฎหมายด้วย เช่นเดียวกับในประเทศไทย โดย “ลูกที่ทอดทิ้งพ่อแม่ ซึ่งพึ่งพาตัวเองไม่ได้” จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ “มาตรา 1563 บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา” และตามประมวลกฎหมายอาญา “มาตรา 307 ผู้ใดมีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามสัญญาต้องดูแลผู้ ซึ่งพึ่งพาตนเองมิได้ เพราะอายุ, ความป่วยเจ็บ, กายพิการ หรือจิตพิการ ทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งพาตนเองมิได้นั้นเสียโดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต” ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มาข้อมูล: Facebook/ทนายคู่ใจ และ South China Morning Post
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ย้อนไทม์ไลน์ “กฎหมายคูฮารา” แห่งประเทศเกาหลีใต้ “พ่อ-แม่ไม่เลี้ยงดู ไม่มีสิทธิ์ได้รับมรดกลูก”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “แอชตัน คุชเชอร์” และ “มิล่า คูนิส” ไม่ยกมรดกของทั้งคู่อย่างน้อย 6.84 พันล้านบาทให้ลูก เพื่อให้พวกเขารู้คุณค่าของการทำงานหนัก
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: สาวเยอรมัน “มาลีน เองเกลฮอร์น (Marlene Engelhorn)” ทายาทมหาเศรษฐีตัดสินใจบริจาคมรดกหลายร้อยล้าน เพราะไม่สมควรได้รับ
