คนเจ้าน้ำตามีเฮ! เพราะงานวิจัยสหรัฐฯ ล่าสุดเผยว่า ร้องไห้ทำให้ผิวดี
ใคร ๆ ก็ต้องเคยร้องไห้กันทั้งนั้น และล้วนคิดว่ามีแต่ข้อเสีย เพราะน้ำตาที่ไหลรินจากการร้องไห้นั้น ส่วนมากมาจากการได้พบพานกับเรื่องราวที่เลวร้ายเป็นส่วนใหญ่ น้อยมากที่จะร้องไห้เพราะความยินดีปลื้มปิติ แต่งานวิจัยสหรัฐฯ ล่าสุดของ “Art of Skin MD” สถาบันผิวหนังชั้นนำ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เผยว่า “การร้องไห้ทำให้ผิวดีในระยะยาว”
มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? งานนี้ “เมลานี ปาล์ม (Melanie Palm)” ซึ่งเป็นแพทย์ผิวหนังและยังดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของสถาบันผิวหนัง “Art of Skin MD” เผยว่า นั่นก็เพราะว่า การร้องไห้ช่วยลดความเครียด เป็นการปลดปล่อยอารมณ์อันโศกเศร้าออกมาตามธรรมชาติของมนุษย์ และเมื่อมนุษย์คนนั้นรู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายก็จะทำงานได้ตามปกติ การไม่มีความเครียดสะสมในระยะยาว พบว่าช่วยแก้ปัญหาผิวที่เกิดสิวได้ การร้องไห้จึงนับเป็นการลดจำนวนสิวบนผิวของเราในทางอ้อม
อย่างไรก็ตาม การร้องไห้เองก็มีข้อเสียต่อผิวพรรณด้วยเช่นกัน ถ้าร้องเป็นเวลานานหรือบ่อยครั้ง นั่นก็เพราะว่า น้ำตามีค่า pH ใกล้ 7 ขณะที่ผิวหนังมีค่า pH 5.5 หรือ 6 ซึ่งการร้องไห้หลั่งน้ำตาในระยะสั้นไม่เป็นอันตรายต่อผิว แต่การที่ผิวใต้ตาโดนน้ำตามาก ๆ อาจทำให้ผิวที่ชุ่มชื้นเปลี่ยนแปลงหรือระคายเคืองเล็กน้อย เนื่องจากความแตกต่างของค่า pH
และเมื่อร้องไห้นาน ๆ สิ่งที่มนุษย์ปกติจะทำก็คือ การเอามือขยี้ตาหรือใช้ทิชชู่เช็ดหน้า ซึ่งการกระทำนี้ก็อาจส่งผลต่อผิวใต้ตาของเราด้วยเช่นกัน เช่น เกิดการอักเสบ ทำให้ผิวคล้ำขึ้น และอาจระคายเคืองต่อสิวในบางกรณี
ที่มาข้อมูล: Healthline และ Yahoo! Finance
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: สระผมก็อ้วนได้! นักวิจัยนอร์เวย์พบ “ขวดแชมพู” ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: นักแสดงฮอลลีวูดฮิตของแปลก “เซรั่มจากหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเด็กแรกเกิด” ช่วยหน้าใส
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ร้านราเมนในญี่ปุ่นผุดเมนูแปลก “ราเมนโปะไอศกรีม”