เกิดเหตุสลด นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ตามหาเพื่อนสาวคนไทย ในอะพาร์ตเมนท์ย่านเมืองท่องเที่ยวชายแดนสะเดา แต่ติดต่อไม่ได้ซ้ำไม่มีคีย์การ์ด พยายามพังประตูเข้าไป รปภ.เข้าห้ามเกิดทะเลาะและชกต่อยกัน รปภ.สู้แรงไม่ได้ คว้ามีดปอกผลไม้แทงสวน โดนบริเวณท้องน้อย ดับอนาถ
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้เฟชบุ๊คชื่อ Suwit Kaewhorthong ออกมาโพสต์เผยถึงเหตุการณ์ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย ที่ใกล้จะขาด ของเมืองด่านนอก จ.สงขลา หรือฝั่งชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยข้อความระบุไว้ว่า
“เศร้าใจกับข่าวที่ไม่อยากเผยแพร่ กับเหตุการณ์ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย ที่ใกล้จะขาด ของเมืองด่านนอก
กรณีที่ชาวมาเลเซียโดน รปภ.แทงตาย เพราะเมาแล้วพยามเข้ามาในอพาร์ทเมนท์ จนทะเลาะกับ รปภ. มีการชกกัน จนรปภ.คว้ามีดแทงเข้าที่พุง คมมีดตัดเส้นเลือด ดับระหว่างส่ง รพ.สะเดา
เรื่องนี้เป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวอย่างสิ้นเชิง หาก รปภ.มีความอดกลั้น เดินหนีจากปัญหา แล้วเรียกตำรวจมาจัดการ นักท่องเที่ยวคงไม่ตาย ตัวเองก็ไม่ติดคุก ด่านนอกจะไม่ถูกประมาณว่าเป็นเมืองเลวร้าย
ที่แปลกมากก็คือ ผู้ตาย และ รปภ.อายุ 46 ปี เท่ากัน”
สอบสวนเบื้องต้น นายโหลดบอกว่า ขณะที่ตนเองเดินดูแลความเรียบร้อย อยู่บริเวณหน้าอะพาร์ตเมนท์ นายตัน ชี เป็ง ซึ่งมีอาการคล้ายคนเมา ได้เดินทางมาหาเพื่อนสาว ที่พักอยู่ในอะพาร์ตเมนท์ดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อกับแฟนได้ และพยายามพังประตูเข้าไปเนื่องจาก นายตัน ชี เป็ง ไม่มีคีย์การ์ด ซึ่งตนเองได้เข้าไปห้ามปราม แต่นายตัน ชี เป็ง ไม่ฟัง จนเกิดการทะเลาะและชกต่อยกัน ตนเองสู้แรงไม่ได้ จึงใช้อาวุธมีดแทงไป 1 ครั้ง บริเวณท้องน้อย จนนายตัน ชี เป็ง ล้มลง ก่อนมีคนแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพามีดไปในเมือง ที่สาธารณะ หรือที่ชุมชน โดยไม่มีเหตุอันควร ควบคุมตัวดำเนินคดี ตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียชีวิตญาติที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเพิ่งทราบเรื่อง กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางมาติดต่อเพื่อรับศพ