“สุนัข” เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ไม่ได้เก่งแค่ดมกลิ่นหายาเสพติดหรือค้นหาคนร้ายเท่านั้น แต่เจ้าตูบยังสามารถใช้ประสาทดมกลิ่นอันยอดเยี่ยมในการหามะเร็งประเภทต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ได้อีกด้วย!
เรื่องนี้อาจจะใหม่สำหรับเมืองไทย แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า… ในประเทศอังกฤษ แพทย์แผนปัจจุบันไม่ได้ใช้เครื่อง MRI หรืออัลตราซาวนด์ในการค้นหามะเร็งที่เกิดขึ้นในร่างกายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งในการค้นหามะเร็งที่แม่นยำไม่แพ้เครื่องมือทางการแพทย์ นั่นก็คือ “การใช้สุนัขดมกลิ่นหามะเร็ง”
การใช้สุนัขดมกลิ่นหามะเร็งนั่นเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจัง ขนาดที่ว่ามีการก่อตั้งมูลนิธิสุนัขดมกลิ่นหามะเร็ง “Medical Detection Dogs” ที่เมืองบักกิงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษในปี 2551 โดย “ดอกเตอร์จอห์น เชิร์ช (Dr John Church)” และ “ดอกเตอร์แคลร์ เกสต์ (Dr Claire Guest)” เพราะจากการทำงานวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลกรณีศึกษาจำนวนมากร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งทั่วประเทศ พวกเขาพบว่า ในบรรดาผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งจำนวนไม่น้อย รู้ตัวว่ามีก้อนเนื้อร้ายบริเวณจุดต่าง ๆ ตามร่างกายหรืออวัยวะภายใน เช่น ปอด เพราะสุนัขที่เลี้ยงไว้มักเอาจมูกเข้ามาดมกลิ่นหรือเลียบริเวณดังกล่าวบ่อย ๆ จนผิดสังเกต
อย่างเช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “ดอกเตอร์แคลร์ เกสต์” ผู้ร่วมก่อตั้ง “Medical Detection Dogs” เมื่อ 14 ปีก่อน เธอพบว่าตัวเองกำลังเป็นมะเร็งเต้านม เพราะ “เจ้าเดซี่ (Daisy)” สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่เธอเลี้ยงไว้เอาแต่จ้องมองเธอและใช้จมูกของน้องดุนตรงบริเวณหน้าอกของเธอ ในตอนแรกเธอไม่ได้เอะใจว่ามีอะไรผิดปกติบริเวณเต้านม จนกระทั่งตอนพาสุนัขที่เธอเลี้ยงไว้ทั้งหมด 3 ตัว รวมถึง “เจ้าเดซี่” ไปเดินเล่น เธอก็ฉุกคิดว่า “เจ้าเดซี่” ไม่เคยทำอะไรแปลก ๆ แบบนี้ จึงลองเอามือสัมผัสหน้าอก เพื่อคลำหาความผิดปกติบริเวณที่สุนัขสุดเลิฟใช้จมูกดุน แล้วก็เจอก้อนแข็ง ๆ อยู่ด้านใน!
หลังจาก “ดอกเตอร์แคลร์ เกสต์” พบความผิดปกติในหน้าอกของเธอ ก็รีบไปพบแพทย์เพื่อค้นหาก้อนเนื้อร้าย ผลปรากฏว่า เธอเป็นมะเร็งเต้านมจริง ๆ ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้องอกดังกล่าวออกจากอกและฉายรังสีบำบัดโรคมะเร็งจนหายขาดจากโรคร้ายนี้ ในตอนนั้นเองทำให้เธอรู้ว่า สุนัขสามารถค้นหามะเร็งได้จริง ๆ จากนั้นจึงเริ่มทำการทดลองและฝึกฝนสุนัขของตัวเองและใน “Medical Detection Dogs”ให้ช่วยค้นหามะเร็งตามจุดต่าง ๆ ในร่างกายของผู้ป่วย
หลังจากทำการศึกษาเกี่ยวกับการดมกลิ่นหามะเร็งของสุนัขมานานกว่า 15 ปี แพทย์ในอังกฤษก็พบว่า เจ้าตูบสี่ขาแสนน่ารักสามารถดมกลิ่นหามะเร็งได้จริง โดยน้อง ๆ สามารถดมกลิ่นหามะเร็งประเภทต่าง ๆ ได้จากการดมกลิ่นผิวหนัง, ลมหายใจ, ปัสสาวะ, อุจจาระ และเหงื่อของผู้ป่วย และมะเร็งที่สุนัขมักพบจากการดมกลิ่นตามผิวหนังและของเสียจากร่างกายมนุษย์ ก็คือ มะเร็งผิวหนัง, มะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งปอด, มะเร็งรังไข่, มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม
อย่างไรก็ตาม การใช้สุนัขดมกลิ่นหามะเร็งทดแทนการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ยังไม่สามารถทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าจำนวนสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนให้ดมกลิ่นหามะเร็งจาก “Medical Detection Dogs” มีน้อยและการจะฝึกสุนัขตัวหนึ่งให้พร้อมใช้งานต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 1 ปี
ปัจจุบันในประเทศอังกฤษมีสุนัขดมกลิ่นหามะเร็งที่พร้อมช่วยเหลือมนุษย์ทั้งหมด 80 ตัว และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากการค้นหามะเร็งด้วยเจ้าตูบเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับจากทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งและผู้ป่วย หากเมืองไทยมีแบบนี้ก็คงดีไม่ใช่น้อย เพราะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถตรวจพบโรคมะเร็งในระยะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ก่อนที่จะสายเกินแก้
ที่มาข้อมูล: Medical News Today, The Metro และ ScientificAmerican
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: คุณย่า “เอดา แดเนียล (Ada Daniel)” วัย 108 ปี เผยเคล็ดลับอายุยืน “เลี้ยงสุนัขแทนลูก”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: แค่เห็นก็น่าเกรงขาม! เผย 10 สายพันธุ์สุนัขที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหมาป่ามากที่สุด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เผย 14 อันดับสายพันธุ์สุนัขที่อันตรายที่สุดในโลกประจำปี 2023 โดยการจัดอันดับของ “Herbert Trial Law Houston – Texas”