ฆาตกรต่อเนื่อง คือบุคคลที่ก่
1. คดีซีอุย ( ซีอุย แซ่ตั้ง )
นับว่าเรื่องนี้ถือเป็นตำนานที่
แต่หลังจากซีอุยให้การรับสารภาพในคดีที่กรุงเทพฯ หนังสือพิมพ์รายวันขณะนั้นก็ลงข่าวใส่สีสันกันอย่างสนุก สังคมไทยขณะนั้นรู้จักซีอุยในฉายา “มนุษย์กินคน” ฆาตกรฆ่าแหวะอก ดื่มเลือดสดๆ กินหัวใจเด็ก ภาพลักษณ์นั้นยังคงติดตามซีอุยมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าซีอุยรับสารภาพก็จริง แต่คำสารภาพของซีอุยไม่ตรงกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ ละครและหนังไทยหลายเรื่องทำซ้ำเรื่องซีอุยกินคน ยิ่งตอกย้ำภาพให้ฝังลึกในใจคนไทย แม้หลังจากนั้นจะมีสารคดี รายการ และบทความต่างๆนำเสนอว่าซีอุยเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ลบภาพซีอุยกินคนไม่ได้ ปัจจุบันร่างของซีอุยถูกนำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว
2. คดีฆาตกรต่อเนื่องหมอนวด สมคิด พุ่มพวง เดอะริปเปอร์แห่งเมืองไทย
นายสมคิด พุ่มพวง ชายวัยกลางคนอายุ 55 ปี เขาเป็นชาวจ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับฉายาว่า “แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ เมืองไทย” หรือ “คิด เดอะ ริปเปอร์” คดี ฆาตกรต่อเนื่อง คดีที่ 2 ของประเทศไทย หลังจากคดีซีอุยนั่นเอง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2548 เขาได้เคยก่อคดีแบบนี้มาแล้ว จนถูกจับกุมและติดคุกไป โดยเหยื่อรายแรกของเขาคือ หญิงสาวอาชีพนักร้องคาเฟ่ ถูกเขาฆาตกรรมด้วยการกดน้ำ
3. บุญเพ็ง หีบเหล็ก นักโทษรายสุดท้ายที่ถูกตัดคอ
ถือเป็นฆาตกรต่อเนื่องในตำนานของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ โดยคดีนี้เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 นายบุญเพ็งก่อเหตุฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ด้วยการจับยัดใส่หีบเหล็ก ทำมาแล้วทั้งหมด 7 ศพ พื้นเพของเขา มีพ่อเป็นชาวจีน ส่วนแม่เป็นคนลาว เกิดที่เมืองอุเทน มณฑลอุดร พอเขาอายุได้ 5 ปี ได้ย้ายมาศัยอยู่กับญาติๆในย่านบางขุนพรหม นิสัยของเขาไม่ชอบทำงานแต่สนใจในวิชาอาคมเป็นอย่างมากๆ โดยเฉพาะเรื่องไสยศาสตร์สเน่ห์ยาแฝดและหมอดู ต่อมานางบุญเพ็งก็ได้บวชเป็นพระภิกษุ (น่าจะเป็นเจ้าอาวาสด้วยนะ) ที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองนนทบุรี เนื่องจากเขาเป็นพระที่ค่อนข้างมีลูกศิษย์เยอะ โดยเพราะสาวๆที่มีฐานะร่ำรวยเป็นเศรษฐี ต่างก็มาหลงติดพันจนมีความสัมพันธ์ทางเพศกับสาวๆเหล่านี้ ต่อมาเขาเกิดโลภากอยากจะได้สมบัติทรัพสินย์ของพวกเธอ จึงได้ลงมือฆ่าและหั่นศพยัดใส่หีบเหล็กแล้วนำไปถ่วงน้ำทุกๆครั้ง
ศพสุดท้ายคือหญิงสาวเศรษฐีที่ถูกสามีหมางเมินจึงมาติดพันกับบุญเพ็ง จนเธอเกิดท้องขึ้นมา และต้องการให้เขารับผิดชอบเป็นพ่อเด็ก แต่เขากลับลงมือฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยมและจับยัดใส่หีบเหล็กถ่วงน้ำพร้อมกับใส่ก้อนอิฐลงไปด้วย 5 ก้อน เพราะไม่พอใจและกลัวว่าชาวบ้านจะรู้เรื่ืองที่เขาหลับนอนกับสีกา ชาวบ้านแถวนั้นก็เริ่มสงสัยว่าหญิงสาวที่เข้ามาสนิทสนมกับนายบุญเพ็งต่างพากันหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา จนมาวันนึงมีชาวบ้านไปทอดแหพบหีบเหล็กถูกถ่วงน้ำไว้ พอเปิดดูก็ถึงกับผงะ พบว่ามีศพอยู่ข้างในหีบเหล็กพวกนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสอบสวนรวบรวมหลักฐานหาผู้ร้ายจนสาวมาถึงนาบบุญเพ็ง จึงออกกำลังตามล่าในที่สุด และทำการจับกุมเขาได้ในระหว่างงานแต่งงานของเขากับหญิงสาวอีกคนที่เขาสึกมาเป็นบรรพชิต
นายบุญเพ็งถูกตัดประหารชีวิตที่วัดพลับพลาไชยในที่สุด โดยเขาเป็นนักโทษคนสุกท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดคอ แต่ทว่ามีข่ววเล่าลือกันอีกว่าในตอนแรกขณะที่ประหารเขานั้น จู่ๆก็ไม่สามารถตัดคอบุญเพ็งได้เนื่องจากความแก่กล้าในคาถาอาคม เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2462 ศพฝังอยู่ที่ป่าช้า และทำพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดภาษี เขตวัฒนา ริมคลองแสนแสบ ปัจจุบัน มีศาลบูชาบุญเพ็ง ซึ่งบุคคลในวัดจะเรียกบุญเพ็งว่า “ลุงบุญเพ็ง” และยังเชื่อว่าหีบเหล็กทั้ง 7 ใบนั้นถูกฝังอยู่ใต้ศาลที่วัด
4. ไอซ์ หีบเหล็ก 2563
คนนี้ต้องบอกเลยว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักแน่นอน เขามีนามว่านายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ เสี่ยไอซ์ หีบเหล็กฆาตกรฆ่าสาวไซด์ไลน์ ชายหนุ่มอายุ 40 ปี ผู้โดดเดี่ยวท่ามกลางครอบครัวที่เคยเป็นเศรษฐี 100 ล้านตระกูลเก่าแก่อันแตกแยก พ่อของไอซ์เคยมีคดีฆ่าหั่นศพเด็กหญิงอายุ 15 ปี จากนั้นพ่อก็ถูกแม่จ้างวานฆ่าตายในที่สุด และแม่ของเขาก็หนีไปใช้ชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศโดยทิ้งมรดกไว้ให้ไอซ์ ไอซ์เข่นฆ่าทารุณหญิงสาวอย่างไร้ปราณี ศพหนึ่ง ศพสอง ศพสาม ค่อยๆผ่านไป โดยศพแรกคือนางสาวกุ๊กกิ๊ก หลังจากที่ไอซ์ติดต่อให้เธอมาหาก็เสพยาและมีเพศสัมพันธ์กัน เธอถูกเขาใช้ปืนจี้ แล้วสั่งให้ลงไปนอนให้หีบทั้งเป็น แล้วเขาก็ปิดล็อกกุญแจไว้โดยไร้อากาศหายใจ จนวันต่อมาก็พบว่าเธอขาดอากาศหายใจตายอย่างทรมาน ไอซ์จึงเรียกลูกน้องชื่อนายเหลิมให้มาช่วยขุดหลุมฝังศพ
Source: Today.line
ต่อมานายเฉลิมชลหรือนายเหลิมได้ถูกตำรวจจับซึ่งทำความผิดโทษฐานค้ายาเสพติดรายย่อย โดยตอนจับกุมนายเฉลิมชลเมายาอย่างหนัก และมีอาการหลอนยา จนพร่ำเพ้อว่ามีวิญญาณหญิงสาวตามหลอกหลอน และเพ้อว่าสาเหตุเพราะไปช่วยเจ้านายฝังศพอำพรางคดี หลังจากนายเหลิมสร่างเมาและได้สติ ตำรวจจึงเค้นสอบปากคำว่าเรื่องราวเป็นมายังไง นายเหลิมจึงสารภาพกับตำรวจว่าเขามีเจ้านายชื่อ ไอซ์ ซึ่งทั้งคู่เจอและสนิทกันตอนอยู่ในคุก พอพ้นโทษออกมาจึงได้มาทำงานเป็นลูกน้องนายไอซ์คอยช่ววยจัดการเรื่องต่างๆ ไปจนกระทั่งช่วยกันฝังศพของนางสาวกุ๊กกิ๊ก ตำรวจงพบว่ามีมูลที่จะเป็นความจริง โดยมีเด็กสาววัย 22 ปี คนหนึ่งชื่อน.ส.วรินทร์ธรณ์ ทำงานเป็นไซด์ไลน์ ถูกแจ้งความคนหายเอาไว้ช่วงกลางปี 2562 จริงๆ
Source: Thairath
จนวันที่ 9 มกราคม เจ้าหน้าที่จึงได้บุกเข้าไปตรวจสอบที่บ้านนายไอซ์ โดยในขณะที่เข้าไปก็พบว่านายไอซ์ถือปืนตั้งลำจะยิ่งสู้กับตำรวจด้วย แต่สุดท้ายก็จับกุมเขาไว้ได้ ตำรวจจึงให้นายเหลิมพาไปชี้จุดที่ฝังศพนางสาวกุ๊กกิ๊ก ปรากฏง่าพอขุดดินลึก 2 เมตรก็เจอศะจริงๆ และก็เป็นศะของน้องกุ๊กกิ๊กจริงๆ เพราะมีลักษณะเด่นคือด้านหลังมีรอยสักเป็นรูปปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ ดังนั้นแม้ใบหน้าจะไม่เหลือรูปทรงแล้ว เนื่องจากโดนฝังมานาน แต่จากลักษณะรอยสักทำให้ยืนยันได้ว่าเป็น นางสาวกุ๊กกิ๊กที่หายตัวไป เนื่องจากมีหลายคนแจ้งมาว่ามีผู้หญิงไซด์ไลน์ที่เคยเข้ามาในบ้านนี้หายตัวไปไม่เคยได้กลับออกมา ตำรวจจึงไปเค้นถามนายไอซ์ว่ามีศพที่ตรงไหนอีกมั้ย แต่เขากลับตอบมาว่า “แน่จริงก็ไปหาเอาเองสิ” ตำรวจจึงบุกเข้าค้นห้องพักและในบ้านก็พบยาเสพติดมากมาย และอาวุธมีดและปืน บริเวณบ้านนายไอซ์จะมีบ่อน้ำใหญ่ๆอยู่ ตำรวจจึงนำทีมนักประดาน้ำลงไปค้น สรุปว่าเจอหีบถูกถ่วงน้ำข้างในเป็นโครตกระดูกอีกเยอะแยะมากมายอีก 2 ศพ ขณะที่มีเด็กสาวอีกมากมายเปิดเผยว่า เคยถูกนายไอซ์จับกักขังไว้เช่นกัน แต่โชตดีที่หนีรอดมาได้
สรุปแล้วไอซ์ถูกศาลตักสินจำคุก 10 ปี 5 เดือนโดยมีคำพิพากษาไปเมื่อวันนี้ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวสุดสยองของฆาตกรต่อเนื่อง ที่ได้สร้างชื่อเสียทิ้งเอาไว้มากมาย ถ้าเพื่อนๆ รู้สึกยังไงก็คอมเม้นท์บอกกันไว้ด้านล่างได้เลยนะ