ในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ทำให้ผู้หญิงเลิกนั่งกิน นอนกิน อยู่บ้านเลี้ยงลูก แล้วหันมาประกอบอาชีพกันมากขึ้น เพื่อช่วยหาเงินจุนเจือครอบครัวอีกแรง แต่ด้วยธรรมชาติร่างกายของผู้หญิง ทำให้มีข้อจำกัดบางอย่างในการทำงาน เช่น มีประจำเดือนอาจปวดท้องหนักจนกระทบงาน หรือตั้งครรภ์ ก็ต้องลางานไปคลอดลูกและดูแลลูกอ่อนที่เพิ่งเกิดอีกหลายเดือน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้นายจ้างหลายแห่งเลือกที่จะไม่รับพนักงานหญิงเข้าทำงาน หรือหากรับเข้าทำงาน เมื่อตั้งครรภ์ก็บีบบังคับให้ลาออก หรือเลิกจ้าง
ล่าสุดปัญหาดังกล่าว กลายเป็นข่าวบนสื่อใหญ่หลายสำนักเมื่อวานนี้ (16 กันายน 2564) เมื่อสาวตั้งครรภ์วัย 28 ปี อาชีพผู้ช่วยสัตวแพทย์ถูกโรงพยาบาลสัตว์ชื่อดังแห่งหนึ่ง “ถูกไล่ออก” จากงาน เพียงเพราะลางานไปฝากครรภ์!
เรื่องราวสุดช็อกนี้ ถูกเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กเพจ “คุยข่าว เมืองนนท” เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 โดย “นายเกียรติคุณ ต้นยาง” หรือ “ทนายโป้ง” ประธานชมรมทนายจิตอาสา ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจาก “นางสาวเพ็ญพิไล บุญเสร็จ” สาวผู้ช่วยสัตวแพทย์วัย 28 ปี ว่าถูกนายจ้างไล่ออกจากงานจากโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี เพราะลางานไปฝากครรภ์เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา เพราะมีอาการแพ้ท้อง หลังจากกลับมาทำงานตามปกติ ก็โดนใบเตือนจากที่ทำงานส่งมาในวันที่ 13 กันยายน 2564 และถูกนายจ้างส่งใบไล่ออกให้ในวันที่ 14 กันยายน 2564 จึงเดินทางมาพบทนายโป้ง เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองและลูกในท้อง
“เพ็ญพิไล” สาวตั้งครรภ์ยังได้เผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า หลังลางานไปฝากครรภ์ ถัดมาในวันที่ 11 กันยายน 2564 ก็เกิดอาการแพ้ท้องตอนเช้าอีก จึงขอลางานต่อ 2 วัน และเดินทางไปโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ แต่พอกลับเข้ามาทำงานตามปกติในวันที่ 13 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา สัตวแพทย์ที่โรงพยาบาล (นายจ้าง) ได้เรียกเข้าไปพบ พร้อมด้วยผู้จัดการ และบอกให้เธอเซ็นใบเตือนและเลื่อนการประเมินผ่านงานของเธอออกไป ทั้ง ๆ ที่ทำงานเกิน 120 วันแล้ว จากนั้นได้เข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับตำรวจ และเมื่อกลับเข้ามาทำงานอีกรอบในวันที่ 14 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ทางผู้จัดการที่เป็นสามีของสัตวแพทย์ หรือนายจ้าง ก็เข้ามาชี้หน้าด่าและไล่เธอ ก่อนส่งใบไล่ออกตามมาให้ในวันเดียวกัน
ชมคลิปเหตุการณ์ขณะเจรจาในโรงพยาบาล
และอีกสาเหตุที่ทำให้สาวตั้งครรภ์รายนี้ ยอมความไม่ได้ คือเดือนหน้าหมอนัดให้เธอไปตรวจท้อง แต่ทางโรงพยาบาลสัตว์ที่เธอทำงานอยู่ไม่ให้ไป ก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ไม่เคยมีปัญหากับนายจ้างมาก่อน ตอนนี้ไปยื่นเรื่องที่กรมแรงงานแล้ว ทางกรมแรงงานบอกว่าจะเรียกสัตวแพทย์คนนี้ เข้ามาพบอีกที ที่สำคัญหากวันไหนที่ลา เธอจะบอกทุกครั้งตามกฏของโรงพยาบาล ตอนนี้ก็ต้องกลับไปทำงานต่อ เพราะยังไม่ได้เซ็นใบลาออก แต่ทางผู้จัดการบังคับให้เซ็นและข่มขู่ว่า “ถ้าไม่เซ็นจะแจ้งหนังสือให้พ้นสภาพการทำงาน” เธอรู้สึกว่ามันไม่ดีที่มารังแกคนท้องแบบนี้ และเครียดมาก
ด้าน “ทนายโป้ง” เผยว่า เบื้องต้นได้ให้ข้อแนะนำตามกฏหมายคุ้มครองแรงงานมาตรา 4.3 ที่บัญญัติไว้ว่า “ห้ามไม่ให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหญิงด้วยเหตุการตั้งครรภ์ จะไม่สามารถเลิกจ้างได้ ถ้าในเวลางานมีปัญหาของการแพ้ท้อง” และมีมาตรา 4.2 ระบุว่า “ถ้าหญิงตั้งครรภ์มีปัญหาปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการทำงานเพราะแพ้ท้อง สามารถบอกนายจ้างขอเปลี่ยนหน้าที่ในการทำงานได้ เพื่อทำงานให้เหมาะสม” หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามจะผิดกฎหมายในมาตรา 104.4 “ห้ามไม่ให้นายจ้างฝ่าฝืนในมาตรา 4.2 และ 4.3 ทั้งหมดนี้ มีโทษทางอาญาจะต้องระวังจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับไม่เกิน 1 แสนบาท”
ขณะนี้อยู่ระหว่างนายจ้าง คือ สัตวแพทย์ ผู้เป็นนายจ้าง กับลูกจ้างสาวตั้งครรภ์ ผู้ช่วยทันตแพทย์ ไกล่เกลี่ยประรีประนอมกัน ทาง The Joi ก็ขอให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันด้วยดี
ที่มาข้อมูล เดลินิวส์และช่อง 3