เป็นเรื่องน่าเศร้านะคะที่ตามสถิติแล้วเด็กมักจะถูกคนใกล้ตัว หรือคนรู้จักล่วงละเมิดมากที่สุดค่ะจากที่รับรู้มา ในปัจจุบันเราเห็นว่ามีการรณรงค์การป้องกันการล่วงละเมิดในเด็กมากขึ้นแต่เราว่ามันก็ยังไม่อยู่ในวงกว้างมากพอ ซึ่งจริงๆ ควรเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องเข้าใจกันเพื่อจะได้ป้องกันตัวเด็กได้ ซึ่งพ่อแม่มักจะคิดไม่ถึงว่าลูกๆหลานๆจะต้องเจออะๆรแบบนี้ เด็กๆเจอเหตุการณ์ก็ไร้เดียงสา โตมาจึงจะรู้ว่าเจอกับอะไร ก็อายไม่กล้าเล่า เรื่องเศร้าในสังคมจึงเกิดขึ้นมากมาย มีทั้งที่เป็นข่าว และไม่เป็นข่าว วันนี้เรามีเรื่องราวที่พวกเธอถูกกระทำในความทรงจำของ 3 สาว ที่ไม่เคยบอกกับใครมาก่อนมาให้เพื่อนๆอ่าน เพื่อไว้เป็นอุทาหรณ์กับลูกหลานนะคะ
ถูกเพื่อนสนิทของพ่อลวนลามตอนอายุ 8-9 ขวบ
เคยถูกเพื่อนของพ่อ ล่วงละเมิดตอนสมัยเด็กๆค่ะ เพิ่งจะมารู้ตัวว่านี่เป็นการถูกลวนลามก็ตอนที่เราโตขึ้นแล้ว เข้าใจโลกภายนอกแล้ว นี่เป็นเรื่องที่เราไม่เคยพูดกับใครเลย แม้แต่พ่อแม่หรือเพื่อนสนิทของเรา นี่จะเป็นครั้งแรกที่เราพูดมันออกมาค่ะ
ตอนนั้นเราอายุประมาณ 8-9 ขวบ อาศัยอยู่ที่อ.ประทาย จังหวัดนครราชสีมา จะมีเพื่อนพ่อของเราคนหนึ่ง ซึ่งพวกเขาค่อนข้างสนิทกันมากๆ เราเรียกเพื่อนพ่อคนนี้ว่าน้าค่ะ เขามักจะมาดื่มสังสรรค์กันที่บ้านของเรา และนอนพักอีกห้องหนึ่งค่ะ เรานอนห้องเดียวกันกับน้องชายของเรา แต่นอนคนละเตียงนะ
จนมีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนของพ่อคนนี้ก็เข้ามาในห้องนอนของเราในตอนหลางดึก ช่วงที่พ่อแม่เราหลับ เขาเข้ามาจับๆลูบๆคลำๆในที่ลับของเรา ในตอนนั้นเราก็ไม่รู้ทำไมเราถึงไม่ขัดขืนหรือต่อต้านอะไรเลย แต่เราทำได้แค่แกล้งว่าหลับอยู่ เขาก็ลูบๆคลำๆอยู่แบบนั้นอยู่นานค่ะ เราแกล้งหลับเพราะกลัวค่ะ และไม่รู้เขาทำอะไร และเขาก็เข้ามากระทำแบบนี้กับเราบ่อยขึ้น เราไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับใคร แม้แต่พ่อแม่ของเรา คงจะด้วยความที่เราเป็นเด็ก และยังไม่รู้ว่านี่มันคืออะไร แต่รู้แค่ว่าไม่ชอบเลย และเขามักจะเรียกให้เราไปนั่งตักเขา โดยมีพ่อแม่เรานั่งเล่นกันอยู่ข้างนอกบ้าน เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งค่ะ จนเราเริ่มไม่ค่อยอยากเข้าใกล้เขาเท่าไหร่
เมื่อเราเริ่มโตขึ้น เพื่อนพ่อคนนี้เขาก็ไม่มาเล่นที่บ้านพ่อเราอีก คงเป็นเพราะเขาน่าจะย้ายไปอยู่อีกที่ อยู่กับภรรยาของเขาค่ะ และช่วงนั้นก็คือครั้งสุดท้ายที่เราเจอเขาค่ะ ทุกวันนี้เราโชคดีนะคะที่เรื่องนั้นมันไม่ได้เป็นปมในใจของเรามากเท่าไหร่นัก จะมีก็แค่ปมในใจที่แอบคิดน้อยใจว่า ทำไมพ่อแม่ของเราถึงไม่ใส่ใจเท่าที่ควร ทำไมถึงไว้ใจปล่อยให้คนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านแบบนี้ ทำไมไม่ดูแลเราอย่างใกล้ชิดกว่านี้
และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เราก็เพิ่งได้ข่าวมาว่าภรรยาของเพื่อนพ่อเราเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และตอนนี้เขาก็ดูแลลลูกสาวของเขาโดยลำพัง เราก็ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับลูกสาวของเขาเหมือนที่เขาเคยทำกับเราไว้ในวัยเด็กนะ
ไอซ์ นามสมมติ – 29 ปี
แม่ไม่เอะใจ ไม่รู้ถึงความผิดปกติในตัวเราเลย แต่กลับให้เราเข้าไปหาอาคนนั้น
นี่เป็นเรื่องที่สุดเลวร้ายและมันยังเป็นแผลในใจของเรามาตลอดตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ค่ะ บ้านของฉันเป็นสวนอาหาร ในสมัยนั้นร้านฉันพอมีชื่อในจังหวัดสระแก้ว ตอนนั้นเราอายุราวๆ 11 ปี จะมีเพื่อนของพ่อเลี้ยงที่เราเรียกเขาว่าอา เขามักจะมากินอาหารที่ร้านอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งเขาก็จะมาค้างคืนที่ร้าน มาอยู่บ่อยครั้งมากๆ จนเรานับถือเขาเหมือนเป็นญาติ และทุกครั้งที่มา เขาจะชอบเข้ามาดึงเราไปกอด กอดแบบแน่นๆ มันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กไรงี้อะค่ะ และยังเอามือมาหน้าอกของเรา
เขามักจะใช้เงิน หรือขนมมาล่อให้เราเข้าไปใกล้ๆเขาค่ะ ด้วยความที่เรายังเด็กมากๆ และเห็นแก่กิน เราก็ตามเขาไปเพียงเพราะเราอยากกินขนมที่เขาเอามาล่อ แล้วเขาก็จับและลูบหน้าอกเราอีกค่ะ เป็นแบบนี้อยู่บ่อยขึ้น จนเราเริ่มรู้สึกไม่ชอบ ไม่อยากเข้าใกล้เขาอีกแล้ว เราก็ไม่สนใจขนมที่เขาเอามาล่อแล้วค่ะ
เราไม่ได้ขัดขืนเขา เพราะด้วยความที่เรายังเด็กมาก และไม่รู้มันคืออะไร เราไม่รู้ว่าเราต้องทำยังไง แต่เราก็ไม่กล้าพูดไม่กล้าบอกแม่เราค่ะ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงไม่บอกแม่ไปเลย
หลายๆครั้งเวลาเขามาบ้าน แม่เราก็จะตะโกนเรียกเรา บอกว่าอามาแล้วนะ ไปหาเขาหน่อยสิ เราก็บอกแม่ว่าเราไม่อยากไป เราอยากเล่นตรงนี้ อาชอบกอดชอบหอม เราไม่ชอบเลย
แต่สิ่งที่แม่เราพูดคือ เข้าไปหาเขาสิ ที่เขากอดเขาหอมเพราะอาเขาเอ็นดูเรานะ อารักเราเหมือนลูกเขา เขาถึงได้กอดเราไง คือตอนนั้นแม้แต่แม่ก็ยังไม่เอะใจหรือสังเกตความผิดปกติของเราเลย
จนมีวันหนึ่ง เรานอนกับลุง มันเป็นเตียงใหญ่ๆ 9 ฟุต อาคนนี้ก็เมาแล้วเข้ามานอนเตียงเดียวกับเรา แล้วก็พยายามเขยิบเข้ามานอนชิดๆเรา จากนั้นเขาก็เอามือสอดเข้ามาใต้ผ้าห่มและจับอวัยวะเพศของเรา เราพยายามดื้น เขยิบหนีและดึงมือเขาออก เพราะเรารู้สึกไม่ชอบ
เราได้แต่หวาดกลัวว่าทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ เราไม่กล้าแม้จะส่งเสียงร้อง ไม่กล้าบอกใครเลย ได้แต่พยายามดันมือเขาออกไป และพยายามไม่เข้าไปใกล้เขา หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เค้าก็ยังมาที่ร้าน มาคุยและพยายามเข้ากอด หอมแก้มและจับหน้าอกอยู่ตลอด เราก็พยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอหน้า เราไม่กล้าบอกแม่ ไม่กล้าบอกคนในครอบครัว เพราะเค้าเป็นญาติผู้ใหญ่ที่แม่นับถือเค้ามากๆ ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ เพราะเราไม่ได้บอกใคร และเค้าก็ได้รับผลกรรมของเค้าแล้ว เค้าเป็นถึง พันเอก แต่ตอนนี้ผลกรรมที่ได้รับคือเป็นอัมพฤกษ์
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มันเป็นแผล แผลในใจของเรา มันไม่มีวันลบได้ แต่ที่เราต้องมาถ่ายทอด เพราะอย่างน้อยต้องบอกเล่า ว่าถ้าใครมีลูกสาว แล้วถ้าลูกเราเอ่ยปากบอกไม่ชอบ อย่านิ่งนอนใจกันนะ เพราะลูกอาจไม่กล้าบอกเราตรงๆ และที่สำคัญ ญาติผู้ใหญ่คนสนิทตัวดีเลย ให้ระวังลูกสาวของคุณไว้ดีๆ อย่างในเรื่องนี้หน้าที่การงานดี ยศใหญ่โตแต่จิตใจต่ำทราม
เราคิดว่าข่าวที่ออกมาทุกวันนี้ เรื่องที่ถูกละเมิด ส่วนใหญ่ก็เพราะพวกผู้ใหญ่ที่เป็นญาติสนิทนี่แหละเด็กๆ ถึงไม่กล้าบอกผู้ปกครอง เพราะเค้ากลัว กลัวถ้าบอกแล้ว แม่จะไม่เชื่อ กลัวว่าถ้าบอกแล้ว คนเหล่านั้นจะทำร้ายเค้า เพราะเราก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเราถึงไม่กล้าบอกแม่
ส้ม นามสมมติ 30 ปี
เรื่องแบบนี้ มันไม่มีวันที่จะลบเลือนไปจากตวามทรงจำได้ นอกซะจากจะพยายามคิดในแง่ที่ว่า มันไม่ใช่ความผิดของเรา มันไม่ใช่ ตราบาปของเรา แต่มันเป็นความผิดของเขา เป็นตราบาปของเขา เขาคือผู้ที่กระทำกับเรา และวันหนึ่ง เขาก็จะต้องรับผลกรรม จากการกระทำของเขา ให้จำสิ่งเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับเรา ไว้ป้องกันตัวเองและลูกหลานคนที่เรารักต่อไปในอนาคตนะคะ เราหวังว่าเรื่องพวกนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง และเด็กหญิงเด็กชายทุกคน ให้ใส่ใจและดูแลลูกหลานของคุณ ไม่ควรไว้ใจใครแม้แต่กับคนรอบตัวของคุณหรือญาติๆของคุณเอง