เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ทารา เจน แลงสตัน หญิงชาวอังกฤษ วัย 39 ปี เป็นคุณแม่ลูกสอง ที่ทั้งแข็งแรงและชอบออกกำลังกาย พบว่าตัวเองป่วยโควิด 19 ได้ออกมาอัดคลิปเล่าความทรมานจากโรงพยาบาล เพื่อเตือนให้หลาย ๆ คนอย่าประมาทกับไวรัสอันตรายที่สามารถคร่าชีวิตได้
รายงานเผยว่า ทาราเริ่มรู้สึกไม่สบายเมื่อ 11 วันก่อน หลังกลับมาจากไปทริปกับครอบครัวที่โปแลนด์ จนอาการเริ่มมารุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในตอนแรกที่ไปพบแพทย์ เธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อที่ช่องอก ได้รับยาปฏิชีวนะ รวมทั้งยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ต้านอาการอักเสบ และยาพาราเซตามอลแก้ปวด แต่อาการแย่ลง กระทั่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา เธอถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลฮิลลิงตัน ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ด้วยรถฉุกเฉิน ภายหลังจากเกิดอาการไออย่างรุนแรงและหายใจติดขัด ก่อนผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาจะออกมาเป็นบวก
ทาราได้ใช้โทรศัพท์มือถืออัดคลิปเล่าความรู้สึกจากเตียงในแผนกผู้ป่วยวิกฤต กล่าวว่า “ฉันอยู่ในไอซียู และฉันไม่สามารถหายใจได้หากไม่มีสิ่งนี้ พวกเขาต้องเย็บมันเข้าไปในหลอดเลือดแดงของฉัน ฉันมีทั้งสายนี้ ท่อนี้ และสายสวน จริง ๆ แล้วฉันดีขึ้นกว่าตอนแรกเป็นสิบเท่า ฉันได้แต่นั่งนับวันรอ ตอนนี้ใครที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ ให้วางมันลงซะ เพราะฉันจะบอกว่าปอดของคุณสำคัญมาก และคุณต้องการปอดของคุณมาก อย่าเสี่ยงเลย เพราะมันจะแย่มาก ฉันเตือนคุณจริง ๆ”
“มันเหมือนมีแก้วอยู่ในปอดของคุณ มันยากที่จะอธิบาย แต่ทุกลมหายใจมันคือการต่อสู้ มันช่างน่ากลัวจริง ๆ”
ทารา เผยเพิ่มเติมว่า เธอเชื่อว่า ยาไอบูโพรเฟน ทำให้เธออาการแย่ลง ก่อนที่จะทราบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ตอนที่เธอมาถึงโรงพยาบาล แพทย์เตรียมจะใส่เครื่องช่วยหายใจให้เธอ เนื่องจากเธอมีอาการหนัก ไม่สามารถหายใจได้เอง แต่โชคดีที่เธอยังรู้สึกตัวอยู่ แต่ต้องการออกซิเจน 6 ลิตร กระทั่งเธออาการเริ่มดีขึ้น และขณะนี้ลดปริมาณออกซิเจนเหลือ 1 ลิตร และตอนนี้เธอกำลังต่อสู้อยู่
ทั้งนี้ ทาราอยากจะเตือนจริง ๆ ว่าไวรัสนี้น่ากลัวกว่าที่หลาย ๆ คนคิด ไม่ใช่แค่คนแก่ที่จะติดเชื้อ ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อเหมือนกัน อย่างมองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว อย่าออกไปรวมกลุ่มสังคมกันในตอนนี้ เพราะมันไม่คุ้มกับความเสี่ยง การแยกตัวเองอยู่ที่บ้านในช่วงนี้จะดีกว่า อยากให้ทุกคนเชื่อจริง ๆ และนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเธอต้องอัดคลิปจากห้องไอซียูด้วยตัวเอง
“ขอให้เรื่องราวของฉันเป็นคำเตือนให้ผู้อื่น คุณต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง” ทารา กล่าว