กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งกักสิงโต 5 ตัว ในสวนสัตว์ชื่อดัง “ปรับพฤติกรรม-ห้ามโชว์ตัว” หลังมีประวัติกัดคนเสียชีวิต

Facebook/กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ในวันนี้ (11 กันยายน 2565) เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งใหญ่ในวงการสวนสัตว์ไทย เมื่อสิงโตในสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์จนเสียชีวิต ส่งผลให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งการด่วนให้ “กักตัวสิงโตทั้ง 5 ตัว” ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ พร้อมห้ามออกมาโชว์ตัวในพื้นที่เปิด และเร่งวางมาตรการความปลอดภัยใหม่อย่างเข้มงวด
“นายอรรถพล เจริญชันษา” อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยกับสื่อไทยว่า “สิงโตทั้ง 5 ตัวจะต้องถูกแยกกักออกจากฝูง” เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับพฤติกรรม ห้ามออกมาโชว์ตัวหรือเข้าใกล้นักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาด เนื่องจากถือว่า “มีพฤติกรรมทำร้ายมนุษย์” หากปล่อยออกมาอีก อาจกลายเป็นความเคยชิน และเสี่ยงต่อการเกิดเหตุร้ายซ้ำอีกในอนาคต โดยพูดเน้นว่า “สัตว์ป่ามีสัญชาตญาณที่ควบคุมไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกมันจะปล่อยสัญชาตญาณออกมา”

มติชนออนไลน์/คลิปเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ชื่อดังถูกสิงโตรุมกัด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางกรมอุทยานฯ ได้สั่งห้ามสวนสัตว์ทั่วประเทศนำสัตว์ดุร้าย เช่น เสือ สิงโต มาถ่ายภาพคู่กับนักท่องเที่ยวแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม โดยเน้นย้ำว่าแม้สัตว์จะเคยเชื่อง หรือผ่านการฝึกมาก่อน ก็ยังมีโอกาสเกิดอารมณ์รุนแรงได้ และที่ผ่านมาก็เคยเกิดกรณีเสือตะปบนักท่องเที่ยวมาแล้ว

ไทยรัฐออนไลน์/ภาพประกอบบทความ
และจากการสำรวจข้อมูลล่าสุดของกรมอุทยานฯ พบว่าปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้เลี้ยงสิงโต 85 ราย รวมทั้งหมด 620 ตัว โดยในจำนวนนี้มีทั้งผู้เพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายและสวนสัตว์ที่เปิดให้เข้าชม ซึ่งจังหวัดที่มีสิงโตมากที่สุดคือ “ฉะเชิงเทรา (แปดริ้ว)” จำนวน 119 ตัว
จากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบคุณสมบัติผู้เลี้ยงและสถานที่เลี้ยง ว่าเป็นไปตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขด้านความปลอดภัย เช่น กรงต้องแข็งแรงพอ อยู่ห่างจากชุมชน และมีการซ้อมแผนความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน
ขณะเดียวกันสวนสัตว์ 5 แห่งทั่วประเทศต้องถูกตรวจเข้ม ซึ่งขณะนี้ไทยมีสวนสัตว์เปิดที่แสดงสัตว์ดุร้ายจำนวน 5 แห่ง ได้แก่…
- กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แห่ง
- ชลบุรี จำนวน 2 แห่ง
- กาญจนบุรี จำนวน 1 แห่ง
- ภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง
ซึ่งกรมอุทยานฯ จะเร่งเข้าตรวจสอบทุกแห่ง พร้อมสั่งให้จัดทำแผนความปลอดภัยใหม่ และส่งให้กรมฯ พิจารณาภายใน 2 วัน หากแผนยังไม่ผ่านมาตรฐานจะไม่อนุญาตให้เปิดโซนแสดงสัตว์ดุร้ายอีกต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้อีกในอนาคต

ผู้จัดการออนไลน์/ภาพประกอบบทความ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ The Joi ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต และหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจได้เป็นอย่างดีว่า “แม้สัตว์จะเลี้ยงในกรง ก็ยังคงเป็นสัตว์ป่า” ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์หรือควบคุมพฤติกรรมได้ทั้งหมด การปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้สัตว์ดุร้าย หรือใช้สัตว์เพื่อความบันเทิงโดยไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่รัดกุม จึงเป็นความเสี่ยงที่อาจแลกด้วยชีวิต
ที่มาข้อมูล: Facebook/กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: สิงโตกินเพลินปาก จนนอนพุงเต่งเป็น “ชูชก” ทำชาวเน็ตทั้งขำทั้งสงสารจนเป็นไวรัล!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: “ลูกใคร ๆ ก็รัก!” พ่อสิงโตตีก้นลูกน้อยหลังซุกซน แม่ไม่อยู่เฉย ลุกขึ้นมาจัดการสามีทันที!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เมื่อสิงโตกับเสือต้องอยู่ถ้ำเดียวกัน ความวุ่นวายปนฮาจึงบังเกิด เพราะตัวหนึ่งอินโทรเวิร์ต อีกตัวก็เอ็กซ์โทรเวิร์ต