ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาสั่งจำคุกตลอดชีวิต “อดีตผู้กำกับโจ้และพรรคพวก” หลังมีความผิดตาม 4 ข้อหาที่อัยการสั่งฟ้อง “คดีใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย”
ในวันนี้ (8 มิถุนายน 2565) เมื่อเวลา 09:30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งตั้งอยู่เลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชันของกรุงเทพฯ ได้อ่านคำพิพากษาคดี “พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล” อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ หรือ “ผู้กำกับโจ้” กับพวกรวม 7 คน ประกอบด้วย “พ.ต.ต. รวีโรจน์ ดิษทอง”, “ร.ต.อ. ทรงยศ คล้ายนาค”, “ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา”, “ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว”, “ด.ต. ศุภากร นิ่มชื่น” และ “ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว” ซึ่งเป็นจำเลยในคดีใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพช่วงเวลาก่อเหตุไว้ได้
ศาลฯ ได้พิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่ 1-5 และ 7 แต่เนื่องจากสารภาพผิด จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 6 จำคุก 5 ปี 4 เดือน (จากภาพด้านบน) โดยความผิดที่ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ถูกอัยการสั่งฟ้อง มี 4 ประเด็น ดังนี้
- เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289 (5), 309 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 และ 172
ด้าน “เรืออากาศตรีจักรกฤษณ์ กลั่นดี” พ่อของ “มาวิน” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่เสียชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ไม่ว่าศาลจะพิจารณาหรือพิพากษาออกมาในทิศทางใดก็ยอมรับ หลังจบคดีนี้จะไม่ต่อสู้อะไรแล้ว ขอเพียงแค่เงินชดเชยเยียวยาที่เรียกร้องต่อศาลไปเป็นจำนวน 1,500,000 บาท จากนั้นจะขอกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายสวดมนต์ให้ชีวิตสงบสุขมากที่สุด
ที่มาข้อมูล: ฐานเศรษฐกิจ, Top News และ Thai PBS
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: คืบหน้า! ตำรวจสั่งฟ้อง “อดีตผู้กำกับโจ้” กับพวก 4 ข้อหา และเตรียมอายัดทรัพย์ 131 ล้าน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เปิดโปรไฟล์ผลงาน “ทนายโชคชัย” ของผู้กำกับโจ้ เจ้าของคดีสะเทือนวงการตำรวจ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “ไอซ์ พิชพงศ์” อดีตนักแสดงช่อง 3 วอนคนอย่าสับสน หลังหลายคนทักหน้าเหมือน “ผู้กำกับโจ้”