คุณแม่ชาวจีนช็อกหนักมากหลังดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน แล้วพบลูกสาวนั่งดูทีวีแบบใหม่แบบสับที่ทำเอาหัวใจแม่หล่นไปอยู่ตาตุ่ม!
สมัยนี้เวลาคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่บ้าน แล้วต้องปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กันเองในบ้านก็คงอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า พวกเขาจะอยู่ดีกินดีเหมือนตอนที่มีพ่อแม่ดูแลอย่างใกล้ชิดที่บ้านหรือไม่ หลายคนเลือกที่จะติดกล้องวงจรปิดหรือ CCTV ภายในบ้านพัก เพื่อเป็นตาวิเศษคอยสอดส่องความเคลื่อนไหวภายในบ้านหากมีเหตุด่วนเหตุร้ายจะได้รับมือได้ทันท่วงที
แต่บางครั้งการเปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านอาจทำให้ผู้ปกครองได้ค้นพบอีกด้านหนึ่งของแก้วตาดวงใจตัวเองก็เป็นได้ อย่างที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ชาวจีนคนหนึ่งบนเกาะผิงถาน ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีน ที่ต้องช็อกสุดขีดเมื่อเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นลูกสาววัย 8 ปี มีพฤติกรรมดูทีวีไม่เหมือนเด็กทั่วไป เพราะหนูน้อยคนนี้ปีนกำแพงไปนั่งดูทีวีอยู่บนมุมเพดานของห้องนั่งเล่น!
คุณแม่ชาวจีนคนนี้ เผยกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสาววัย 8 ปี ชอบนั่งดูทีวีบนมุมเพดานห้องแบบที่ปรากฏในคลิป จนกระทั่งเปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 สาเหตุที่ลูกสาวของเธอสามารถใช้แขนและขาค่อย ๆ ยันตัวไต่ไปตามกำแพงก่อนไปหยุดที่มุมเพดานห้องนั่งเล่นได้ ก็เป็นเพราะสภาพอากาศชื้นบนเกาะผิงถาน ทำให้เนื้อตัวของเด็กน้อยเหนียวหนึบหนับมากกว่าปกติ ประกอบกับผนังห้องนั่งเล่นปูด้วยกระเบื้อง ก็ช่วยให้เธอสามารถไต่ขึ้นไปบนเพดานได้ง่ายมากขึ้น
หลังจากคลิปเด็กหญิงวัย 8 ปี ไต่ขึ้นกำแพงไปนั่งดูทีวีบนมุมเพดานห้องนั่งเล่นถูกแชร์ลงบนโซเชียลมีเดียจีนก็กลายเป็นคลิปไวรัลทันที ชาวเน็ตหลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นใต้คลิปดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก เช่น “นี่มันสไปเดอร์เกิร์ล!”, “ตรวจดูแขนของลูกสาวด้วยนะคุณแม่ ว่ามีแมงมุมกัดเธอรึเปล่า? ถ้ามี คุณแม่ควรเตรียมชุดสไปเดอร์เกิร์ลให้เธอไว้ด้วยล่ะ” และ “คุณแม่ควรพาหนูน้อยไปเข้าคลาสปีนเขา ฉันเชื่อว่าเธอจะทำได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน” เป็นต้น
ที่มาข้อมูล: Yahoo! News
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ลูกสาวสงสารพ่อแม่นั่งพื้นกินข้าวเลยซื้อโต๊ะมาให้ สุดท้ายกลับเอาข้าวมานั่งกินบนโต๊ะแทน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: โบ๊ะบ๊ะไม่ไหว! ตำรวจสหรัฐฯ บุกบ้านสาวผิวสีหลังพบผมคนอยู่ท้ายรถ สุดท้ายคดีพลิก…คือ “วิกผม”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ไวรัล! โจรอเมริกันบุกปล้นร้านทำเล็บแต่กลับไม่ได้เงินสักบาท เพราะลูกค้าไม่สนใจคำขู่ แถมทำหน้างงใส่อีกต่างหาก