อินกับซีรีส์ “Game of Thrones” และซีรีส์ “House of the Dragon” จนอยากอ่านหนังสือ แต่ก็ไม่รู้ว่า จะเริ่มที่เล่มไหนก่อนดี? ในบทความนี้ The Joi เลยจัดลำดับการอ่านหนังสือชุด “Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์” เรียงตาม Timeline เนื้อเรื่องในจักรวาลแฟนตาซีดังกล่าว มาฝากเพื่อน ๆ กัน รับรองไม่มีงง!
ลำดับที่ 1 The Game of Thrones (โลกแห่งมหาศึกชิงบัลลังก์)
หนังสือ “The Game of Thrones (โลกแห่งมหาศึกชิงบัลลังก์)” เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคต้นกำเนิดทวีปเวสเทอรอส (Westeros) มีรายละเอียดครอบคลุมทั้ง 7 อาณาจักร พร้อมภาพประกอบเรื่องราวอันน่าทึ่งที่เพื่อน ๆ จะได้อ่านในเล่มต่อ ๆ ไป
ลำดับที่ 2 Fire & Blood (อัคคีและโลหิต)
หนังสือ “Fire & Blood (อัคคีและโลหิต)” บอกเล่าเรื่องราวเมื่อ 300 ปี ก่อนเกิดมหาศึกชิงบัลลังก์มังกรครองความเป็นใหญ่ในเวสเทอรอส เพื่อน ๆ จะได้อ่านรายละเอียดทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตระกูลทาร์แกเรียน (Targaryen) ซึ่งเนื้อหาช่วงนี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ภาคแยกชื่อว่า “House of the Dragon”
สำหรับหนังสือฉบับแปลเป็นภาษาไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 เล่ม คือ “อัคคีและโลหิต 1.1 และ 1.2”
ลำดับที่ 3 A Knight of the Seven Kingdoms (อัศวินแห่งเจ็ดราชอาณาจักร)
หนังสือ “A Knight of the Seven Kingdoms (อัศวินแห่งเจ็ดราชอาณาจักร)” บอกเล่าเรื่องราวเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนเกิดเหตุการณ์ใน “Game of Thrones” นำเสนอการเดินทางของวีรบุรุษไม่เข้าท่าสองคนที่ผจญภัยไปทั่วดินแดนเวสเทอรอส
ลำดับที่ 4 A Game of Thrones (เกมล่าบัลลังก์)
หนังสือ “A Game of Thrones (เกมล่าบัลลังก์)” เป็นหนังสือเล่มแรกของชุด “มหาศึกชิงบัลลังก์” หรือ “A Song of Ice and Fire” ซึ่งเป็นนวนิยายแนวมหากาพย์แฟนตาซีเรื่องยิ่งใหญ่ที่ผู้เขียนคือ “จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน (George R.R. Martin)” ตั้งใจว่าจะเขียนทั้งหมด 7 เล่ม
เนื้อเรื่องในเล่มนี้เล่าถึงอาณาจักรทั้งเจ็ด ซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ที่คิงส์แลนดิ้ง (King’s Landing) ปัจจุบันมี “พระราชาโรเบิร์ต” แห่งตระกูลบาราเธียน เป็นผู้ปกครองสูงสุด “โรเบิร์ต (Robert)” สมรสกับ “เซอร์ซี (Cersei)” แห่งตระกูลแลนนิสเตอร์ (Lannister) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการโค่นอำนาจพระราชาองค์ก่อน และทำให้ “โรเบิร์ต” ได้ขึ้นครองบัลลังก์ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “บัลลังก์เหล็ก”
ผู้ดำรงตำแหน่ง “หัตถ์ของพระราชา” หรือหัวหน้าที่ปรึกษาของพระราชาคนก่อนเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา “โรเบิร์ต” จึงแต่งตั้งให้ “เอ็ดดาร์ด สตาร์ค (Eddard Stark)” หรือ “เน็ด (Ned)” เพื่อนสนิทของเขาเป็น “หัตถ์” คนต่อไป ทำให้ “เน็ด” ต้องเดินทางจากเมืองของตนคือ “วินเทอร์เฟลล์ (Winterfell)” ไปยังคิงส์แลนดิ้งพร้อมกับลูกสาวสองคน ในขณะที่ลูกชายคนรองของเขาคือ “แบรน (Bran)” ถูกน้องชายฝาแฝดของ “เซอร์ซี” ผลักตกจากหอคอย เพราะบังเอิญไปล่วงรู้ความลับของเขากับ “เซอร์ซี” เข้าระหว่างที่มาเยือนวินเทอร์เฟลล์ “แบรน” ไม่ตายแต่ก็ไม่ฟื้นอยู่นาน และเมื่อฟื้นแล้วก็เดินไม่ได้และจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ด้วย
ที่คิงส์แลนดิ้ง “เน็ด” เกิดขัดแย้งกับ “โรเบิร์ต” เพราะไม่เห็นด้วยที่ “โรเบิร์ต” จะส่งคนไปฆ่า “แดเนริส (Daenerys)” ทายาทคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ของตระกูลทาร์แกเรียน ซึ่งเป็นตระกูลของพระราชาองค์ก่อน “เน็ด” ถูกจับขัง แต่หลังจากนั้น “โรเบิร์ต” ก็ได้รับบาดเจ็บระหว่างออกล่าสัตว์จนเสียชีวิต “จอฟฟรีย์ (Joffrey)” ลูกชายของ “โรเบิร์ตกับเซอร์ซี” ขึ้นครองอำนาจเป็นพระราชาองค์ต่อไป แต่ “เน็ด” คัดค้านเพราะรู้ความลับเกี่ยวกับกำเนิดของ “จอฟฟรีย์” ขณะเดียวกันน้องชายสองคนของ “โรเบิร์ต” ต่างก็ได้รับการสนับสนุนให้อ้างสิทธิ์ในบัลลังก์เหล็กด้วย
สำหรับหนังสือฉบับแปลเป็นภาษาไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 เล่ม คือ “เกมล่าบัลลังก์ 1.1 และ 1.2“
ลำดับที่ 5 A Clash of Kings (ราชันประจัญพล)
ในเล่ม “A Clash of Kings (ราชันประจัญพล)” เรื่องราวดำเนินต่อเนื่องมาจาก “A Game of Thrones (เกมล่าบัลลังก์ )” ในดินแดนเจ็ดราชอาณาจักร การต่อสู้เพื่อช่วงชิงบัลลังก์เหล็กดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นและนองเลือดยิ่งขึ้น
เมื่อความพยายามของ “รอบบ์ สตาร์ค (Robb Stark)” ที่จะเป็นพันธมิตรกับพวก “เกรย์จอย (Greyjoy)” ถูกปฏิเสธและถูกตอบสนองด้วยการโจมตีครั้งใหญ่ตามชายฝั่งตะวันตกของแดนเหนือ ในขณะเดียวกัน “สแตนนิส บาราเธียน (Stannis Baratheon)” ประกาศตนเป็นพระราชาแห่งเวสเทอรอส และด้วยความโกรธแค้นที่ “เรนลี บาราเธียน (Renly Baratheon)” น้องชายของเขาเองอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์เช่นกัน “สแตนนิส” จึงเข้าปิดล้อมปราสาทสตอร์มส์เอ็นด์ บ้านเกิดของเขาเอง เพื่อบังคับให้ “เรนลี” ยกทัพมาสู้กับเขา ทางทิศตะวันออก “แดเนริส ทาร์แกเรียน” ยังคงพยายามหาทางเดินทางกลับไปทวงบัลลังก์ที่ถูกแย่งชิงไปกลับคืน
สำหรับหนังสือฉบับแปลเป็นภาษาไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 เล่ม คือ “ราชันประจัญพล 2.1 และ 2.2″
ลำดับที่ 6 A Storm of Swords (ผจญพายุดาบ)
ดำเนินมาถึงเล่มที่ 3 ของชุด “A Song of Ice and Fire (มหาศึกชิงบัลลังก์)” เล่าเรื่องราวการแย่งชิงบัลลังก์เหล็กแห่งเจ็ดราชอาณาจักรดำเนินต่อไป สงครามยังคงทวีความดุเดือด ในบรรดาผู้ช่วงชิงอำนาจทั้งห้าราย รายหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว อีกรายไม่เป็นที่นิยมชมชอบ ในขณะที่ฝ่ายต่าง ๆ สร้างพันธมิตรกัน แล้วแตกแยก “จอฟฟรีย์” นั่งครองบัลลังก์เหล็ก ปกครองอาณาจักรอย่างไม่เป็นสุข ขณะที่อนาคตของอาณาจักรอยู่ในสภาพหมิ่นเหม่เต็มที ก็ไม่มีผู้ใดจะสุขสงบอยู่ได้เลยจนกว่าเจ็ดราชอาณาจักรจะระเบิดเกิดเป็นพายุดาบอันรุนแรง…
สำหรับหนังสือฉบับแปลเป็นภาษาไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 เล่ม คือ “ผจญพายุดาบ 3.1 และ 3.2“
ลำดับที่ 7 A Feast For Crows (กาดำสำราญเลือด)
ในหนังสือ “A Feast For Crows (กาดำสำราญเลือด)” เล่าเหตุการณ์หลังจากการต่อสู้ชิงดีชิงเด่นอย่างขมขื่นนานหลายศตวรรษ มหาอำนาจทั้งเจ็ดที่แบ่งแยกดินแดนต่างเอาชนะกันและกันจนบังเกิดการสงบศึก แต่ลึกลงไปในใจของทุกฝ่ายยังคงความเคืองแค้นและยังคงคุกรุ่นดุจคลื่นใต้น้ำ แต่เวลาผ่านไปไม่นาน บรรดาผู้รอดชีวิต, พวกนอกกฎหมาย, ผู้แปรพักตร์ และพวกกินศพแห่งเจ็ดราชอาณาจักรก็มารวมตัวกัน ณ บัดนี้ ขณะที่ฝูงอีกามนุษย์มาชุมนุมกันในงานเลี้ยงแห่งเถ้าถ่าน แผนการอันกล้าบ้าบิ่นใหม่ ๆ และการร่วมมือเป็นพันธมิตรที่เต็มไปด้วยอันตรายก็เริ่มก่อตัวขึ้น
ขณะที่ใบหน้าอันไม่คาดคิด บ้างก็เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่แล้ว บ้างก็เพิ่งปรากฏโฉม โผล่ออกมาจากแสงสนธยาอันน่าหวาดหวั่นเป็นลางร้ายของการต่อสู้และความโกลาหลวุ่นวายในอดีต เพื่อตอบรับการท้าทายแห่งช่วงเวลาร้ายกาจที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งชนชั้นสูงและชาวบ้าน, ทหารและพ่อมดหมอผี และนักฆ่าและนักปราชญ์ ต่างมาร่วมชุมนุม เพื่อวางโชคชะตา… และชีวิตของตนเป็นเดิมพัน เพราะในงานเลี้ยงที่เหล่ากาดำพากันมาสำราญเลือดนั้น มีแขกเหรื่อมาร่วมด้วยมากมาย… หากมีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่จะรอดกลับไป
สำหรับหนังสือฉบับแปลเป็นภาษาไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 เล่ม คือ “กาดำสำราญเลือด 4.1 และ 4.2“
ลำดับที่ 8 A Dance with Dragons (มังกรร่อนระบำ)
หนังสือ “A Dance with Dragons (มังกรร่อนระบำ)” เล่าเรื่องราวหลังจากการรบครั้งยิ่งใหญ่ อนาคตของเจ็ดราชอาณาจักรก็แขวนอยู่บนเส้นด้าย ถูกรุมเร้าด้วยภัยคุกคามที่เพิ่งปรากฏขึ้นจากทุกทิศทาง ทางตะวันออก “แดเนริส ทาร์แกเรียน” เชื้อสายคนสุดท้ายของตระกูลทาร์แกเรียน ได้ปกครองร่วมกับมังกรทั้งสามตัวของเธอในฐานะราชินีแห่งนครที่สร้างขึ้นจากฝุ่นธุลีและความตาย เธอมีศัตรูมากมายนับพัน และหลายคนออกเดินทางตามหาเธอ ขณะที่คนเหล่านั้นมารวมตัวกัน ชายหนุ่มผู้หนึ่งก็เริ่มต้นออกแสวงหาราชินีเช่นกัน ด้วยจุดมุ่งหมายในใจที่แตกต่างไปจากผู้อื่นโดยสิ้นเชิง
ทางด้าน “ทีเรียน แลนนิสเตอร์ (Tyrion Lannister)” ซึ่งกำลังหนีเอาชีวิตรอดจากเวสเทอรอส ก็มุ่งหน้าไปหา “แดเนริส” เช่นกัน แต่พันธมิตรล่าสุดของเขาในความพยายามนี้มิใช่กลุ่มคนซอมซ่ออย่างที่ดูเหมือนจะเป็น หากมีคนสำคัญคนหนึ่งที่อาจจะลบล้างการอ้างสิทธิ์ในเวสเทอรอสของ “แดเนริส” ไปตลอดกาลรวมอยู่ด้วย ขณะเดียวกัน ที่ผากำแพงทางเหนือ “จอน สโนว์ (Jon Snow)” ลอร์ดผู้บัญชาการคนที่ 998 แห่งหน่วยพิทักษ์ราตรีต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ด้วยเขามีศัตรูที่แข็งแกร่งทั้งในและนอกผากำแพง
ในดินแดนแห่งสัตว์หิมะและน้ำแข็ง ความขัดแย้งอันแสนขมขื่นจากทุกมุมโลกถูกจุดชนวนขึ้นอีกครั้ง การทรยศหักหลังจากคนใกล้ตัวเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ในช่วงเวลาแห่งความไม่สงบที่กำลังทบทวีขึ้นนี้ กระแสชะตากรรมและการเมืองจะนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!
สำหรับหนังสือฉบับแปลเป็นภาษาไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 เล่ม คือ “มังกรร่อนระบำ 5.1, 5.2 และ 5.3″
ลำดับที่ 9 The Winds of Winter
สำหรับหนังสือ “The Winds of Winter” มีการอัปเดตล่าสุดเมื่อมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยผู้เขียน “จอร์จ อาร์.อาร์. มาร์ติน” ว่า เขากำลังเขียนอยู่ โดยพิมพ์ข้อความในบล็อกของเขาว่า “ในที่สุดก็เขียนตอนของเซอร์ซีเสร็จ และตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการเขียนเรื่องราวของ “เจมี แลนนิสเตอร์” กับ “บริแอนน์ (Brienne)” เข้าใจว่า งานเขียนของผมไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่หลายคนคิดนะครับ”
ลำดับที่ 10 A Dream of Spring
และหนังสือเล่มนี้ จะเป็นเล่มสุดท้ายของชุด “มหาศึกชิงบัลลังก์” หรือ “A Song of Ice and Fire” แต่แฟน ๆ คงต้องรออีกนานโข เพราะเล่ม 9 ของหนังสือชุดนี้ยังเขียนนานมาก ไม่ออกมาเสียที แต่ก็หวังว่า จะเขียนจบให้เราได้อ่านตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นะ
หากเพื่อน ๆ ขี้เกียจอ่านหนังสือ อยากจะเสพความบันเทิงแบบง่าย ๆ ในรูปแบบของซีรีส์ก็ไปหาชม “Game of Throne” และ “House of the Dragon” ได้บนแอปฯ สตรีมมิ่งของ HBO
ที่มาข้อมูล: Town & Country
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: HBO เปิดวาร์ป 9 นักแสดงนำซีรีส์ “House of the Dragon” พร้อมเรื่องย่อ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “House of the Dragon” ขึ้นแท่นซีรีส์เปิดตัววันแรกที่มีคนดูมากที่สุดในโลกปี 2022
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เผย 10 ตัวละครซีรีส์ “Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์” ที่ “จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน (George R.R. Martin)” ชอบมากที่สุด!
