ในตอนนี้ทุกคนยังอยู่ในช่วงที่ไม่สามารถบินออกไปเที่ยวต่างประเทศได้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะจริงๆแล้วเชื่อไหมว่า ที่ๆต่างประเทศมีนั้นในประเทศไทยบ้านเราเองก็มีไม่ต่างกัน และความสวยก็ไม่แพ้กันด้วยนะ อยากให้คนไทยทุกคนช่วยๆกันออกไปเที่ยวอุดหนุนและเยี่ยมชมสถานที่ในไทยกันเยอะๆ เพราะเนื่องจากด้วยสาเหตุของการล็อกดาวน์ของหลายๆประเทศที่ยังคงอยู่ ทำให้ในช่วงนี้ยังไม่มีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย ในบางแห่งก็ถึงกับต้องปิดชั่วคราวเพราะขาดนักท่องเที่ยวนั่นเอง ดังนั้นเรามาช่วยกันออกเที่ยวไทยภายในประเทศบ้านเราดีกว่า วันนี้เรามี 6 สถานที่เที่ยวมาแนะนำให้สำหรับคนที่อยากจะออกไปเที่ยวต่างประเทศแต่ก็ยังไปไหนไม่ได้ แต่ละที่ก็สวยและบรรยากาศฟินๆทั้งนั้น จะมีที่ไหนบ้าง ไปเริ่มกันเลยที่…..
1. เกาะมัสสุม จ.สุราษฎ์ธานี
ส่วนน้องตัวนี้มีชื่อว่า ญาญ่า เรียกได้ว่าเป็นน้องเรียกแขกเลยล่ะ มีนิสัยขี้อ้อนมาก หากแวะไปหาน้องต้องอย่าลืมพกหนมปังแผ่นไปด้วยนะ เพราะน้องชอบมากๆ
อย่าได้พลาด !!!!! สถานที่เที่ยวยอดฮิตติดดอยของคนที่มาเกาะสมุย ในตอนนี้ต้องที่นี่เลยเกาะมันสุม หรือเกาะหมู หรือ piggies island กับเกาะแตน อยู่ติดเกาะสมุย ไม่มีไรมาก นอกจากไปถ่ายรูปกับหมูเหมือนอยู่บาฮามาส ด้วยความที่คนสมัยก่อนเอาหมูมาเลี้ยงไว้บนเกาะนี้ ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่ง มันจะโด่งดังขึ้นจนเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปลงโซเชียวกริ๊บเก๋ไปอีก ระยะทางที่ไม่ไกลจากตัวเกาะสมุยมากนัก ถ้าเช่าเรือหางยาว ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีก็ถึง แถมยังสามารถไปยังเกาะแตนข้างๆได้อีกด้วย เขาว่าน้องหมูที่นี่เฟลนลี่มากๆด้วยนะ
2. หาดชมดาว จ.อุบลราชธานี
วันหยุดไม่รู้จักไปเที่ยวไหนดี หากชอบชมบรรยากาศดีๆต้องไปชมบรรยากาศเช้าๆที่ หาดชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี รอชมแสงขาวท่ามกลางอุณหภูมิ 17 องศา ที่นี่สวยแบบมหัศจรรย์มากๆพอๆกับแกรนด์แคนยอนเลยล่ะ หากไปช่วงโรงเรียนเลิกพอดี ที่นั่นจะมีเด็กๆที่เป็นไกด์พาไปยังจุดถ่ายรูปมุมสวยๆ
3. เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎ์ธานี
เขื่อนเชียวหลาน เขื่อนรัชชประภา หรือว่าที่ใครๆ รู้จักกันว่ากุ้ยหลินเมืองไทย อีกหนึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี บอกเลยว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชิลสุดๆ เพราะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมที่นอนกลางน้ำ กินก็กลางน้ำแถมยังได้ ภายเรือท่ามกลางหุบเขาอันสวยงาม จนได้ชื่อว่าเป็นกุ้ยหลินแห่งเมืองไทยเลย แต่ที่นี่เข้าไปแล้วจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะ จึงไม่ค่อยมีใครเป็นสังคมก้มหน้า ทุกคนต่างลงเล่นน้ำ หาเรื่องมาพูดคุยกัน หัวเราะ ยิ้มใส่กัน มันทำให้การเที่ยวแบบนี้ มันมีความสุขมาก เพราะได้อยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง เขื่อเชี่ยวหลานจึงเหมาะกับการไปพักผ่อนของใครหลายๆคน เพื่อพักผ่อนจริง ๆ เพราะจะไม่มีอะไรมารบกวนสมองเราเลย ได้พักสมองจากปัญหาเรื่องงาน หรือเรื่องต่าง ๆ
4. ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่
ที่นี่ไม่ใช่ญี่ปุ่นแต่อย่างใดนะ แต่ที่นี่คือคือซากุระญี่ปุ่นพันธุ์แท้ซึ่งถูกเพาะพันธุ์อยู่รอบสถานีฯอ่างขาง จ.เชียงใหม่ เป็นจำนวนมากถึง 5,000 ต้น และกำลังอยู่ในช่วงอายุประมาณ 10 กว่าปี ซึ่งเป็นวัยขบเผาะสำหรับต้นซากุระที่พร้อมจะผลิดอก ซากุระจะบานช่วงหน้าหนาว เดือนธันวาคม – มกราคมเพียงเท่านั้น ช่วงเป้นระยะเวลาที่สั้นเกินไปซะจริงๆ แต่หากได้ไปแล้ว รับรองว่าคุ้มค่า และได้ภาพสวยๆพร้อมกับอากาศดีสุดๆแน่นอน
5. เกาะพยาม จ.ระยอง
เกาะพยามเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมัลดีฟส์แห่งเมืองไทย เป้นเกาะที่ตั้งอยู่ริมขอบทะเลสาบของชายฝั่งทะเลอันดามัน และเป็นเกาะที่สามารถชมตะวันตกดิน หากอยากได้ฟิลแบบฟินๆต้องมาพักที่รีสอร์ท Blue sky แห่งนี้ขอบอกว่าสวยมาก เงียบและสงบ บรรยากาศดี เป็นส่วนผสมระหว่างทะเลกับแม่น้ำมีเรือให้พายฟรี แนะนำให้เชคอินแล้วเล่นน้ำเลย เพราะช่วงบ่ายถึงเย็นน้ำจะลงมาก เราสามารถพายเรือเข้าไปในรีสอร์ทที่เป็นส่วนของห้องพักได้ และต้องมาช่วงที่น้ำสูงคือช่วงแรม 15 ค่ำ หรือขึ้น 15 ค่ำ จะถ่ายรูปออกมาสวย
6. บ้านสวนน้อยรีสอร์ท จ.นครราชสีมา
บ้านสวนน้อยรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นอกจากThe Hobbit house ที่เหมือนยกบ้านฮอบบิทที่นิวซีแลนด์ มาไว้ที่เขาใหญ่แล้วยังบรรยากาศดีแบบสุดยอดไปอีกนะ ที่นี่มีทั้งชุดครอสเพลเจ้าหญิงเจ้าชายต่างๆให้ใส่ถ่ายรูปกับบ้านด้วยนะ สามารถใช้บริการโดยเช่าชุดคอสเพลยถ่ายภาพได้ ในราคาผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาท แต่สำหรับใครที่พักบ้านสวนน้อย คือ ฟรี เพราะรวมอยู่ในค่าห้องพักแล้ว และขอบอกว่าถึงประตูทางเข้าจะดูเล็ก แต่ข้างในกว้างมาก และห้องตกแต่งน่ารักเหมือนในเทะนิยาย มีมุมและที่ถ่ายรูปเยอะ
เห็นมั้ยทุกคน?? แต่ล่ะที่ก็สวยไม่แพ้ต่างประเทศทั้งนั้นเลย แต่มันจะสวยมากหากคุณไปเยือนและชมด้วยตาของคุณเอง รอบรองว่าไปแล้วคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม