รพ. ดังแห่งหนึ่งในภาคอีสานเจอดราม่า! หลังออกประกาศเครื่องแบบและการแต่งกายของบุคลากรทางการแพทย์ ห้ามหมอย้อมผม-แต่งหน้าจัด-ติดขนตาปลอม เพราะจะไม่น่าเชื่อถือ
ดราม่าร้อน เสิร์ฟสุก ๆ บนโลกโซเชียลขณะนี้ ไม่มีเรื่องใดร้อนแรงเท่า กรณี “รพ. ดังในภาคอีสานออกกฎระเบียบห้ามหมอทั้งชายและหญิงย้อมผม-แต่งหน้า แถมชุดต้องเป๊ะปังวังเวอร์” จนเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นในหมู่ชาวเน็ตไทย เรื่องราวดราม่านี้บังเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเพจ Facebook ดัง “ไม่ใช่หมอบ่น-aggressivenotdoctor” ได้โพสต์แคปชั่นข้อความว่า “หน้าผม ต้องเป๊ะ ทั้งชายและหญิง ให้หมอมีเวลานอน ทานข้าว ก่อนเถอะค่อยให้ไปแต่งหน้า”
พร้อมกับภาพประกอบ เป็นภาพประกาศของโรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ทางภาคอีสานของไทย “เรื่องเครื่องแบบและการแต่งกายของบุคลากรในโรงพยาบาล” สำหรับเนื้อหาที่ทำให้หลายคน “อิหยังวะ?” มากที่สุด ได้แก่
- ห้ามสวมกระโปรงสั้นสูงกว่าเข่าเกิน 1 นิ้ว ไม่ผ่ากระโปรงลึก ไม่คับรัดรูป ให้สวมกางเกง ทรงสแลค ความยาวระดับตาตุ่ม ไม่คับรัดรูป, ห้ามสวมกางเกงยีนหรือผ้ายืด กระโปรงและกางเกงใช้โทนสีสุภาพ ได้แก่ สีดำ สีกรมท่า สีน้ำเงินเข้ม สีกากี สีเทาเข้ม
- ติดป้ายชื่อโดยหันป้ายชื่อออกให้ชัดเจนตามระเบียบของโรงพยาบาล, ห้ามติดสติ๊กเกอร์ หรือวัสดุอื่นใดบนป้ายชื่อนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาต
- ทรงผมและใบหน้าสุภาพสตรี ห้ามทำสีผมผิดธรรมชาติ, ห้ามติดกิ๊บ หรือที่คาดผมสีฉูดฉาด หรือลายการ์ตูนต่าง ๆ, แต่งหน้าแต่พองาม ไม่ฉูดฉาดผิดธรรมชาติ เช่น ทาปาก, ทาตาด้วยสีจัดจ้าน, ติดกากเพชร-ขนตาปลอม เป็นต้น
ซึ่งเรียกรถทัวร์ชาวเน็ตไทยมาได้จากทั่วสารทิศ พร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงไม่เห็นด้วยกับระเบียบที่ตึงจัดเกินไปนี้เป็นจำนวนมาก
ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย ที่ตกเป็นดราม่าดังสนั่นโซเชียลขณะนี้ ก็ได้เผยว่า ประกาศฉบับดังกล่าวมีมาตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2565 มีทั้งหมด 5 หน้าด้วยกัน แต่เพจ Facebook ดังกล่าว ได้หยิบเอาเฉพาะหน้าแรกของประกาศไปโพสต์ จึงนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนที่เหมาะสม และเชื่อมโยงกับรูปแบบการแต่งกายของจังหวัดเป็นพื้นฐาน ซึ่งไม่ใช่เป็นความคิดของตนคนเดียว เป็นรูปแบบของคณะกรรมการบริหาร การแต่งกายของบุคลากรทุกคนในโรงพยาบาล ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปจนถึงแพทย์ ให้ความเคารพในสิทธิของแต่ละคนและไม่มีการลิดรอนสิทธิ์
การที่มีกระแสดราม่าเกิดขึ้น อาจเป็นเพราะมีหมอบางคนแต่งตัวไม่เหมาะสม ชาวบ้านเห็นแล้วไม่เชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ เกิดคำตำหนิติเตียน ทางโรงพยาบาลทราบเรื่องดังกล่าว ก็จะใช้วิธีการพูดจาตักเตือนหมอหรือบุคลากรทางการแพทย์คนนั้นเป็นการส่วนตัวไป เป็นการพูดคุยกันแบบพี่น้อง
ที่มาข้อมูล: เดลินิวส์ และ ข่าวสดออนไลน์
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: สายฝอต่อขนตาต้องรู้! กรมการแพทย์เตือนติดขนตาปลอมอาจทำให้ตาอักเสบและถึงขั้นตาบอดได้
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: หมอฟันโพสต์คลิป “ถอนฟันคุดเอง” เพิ่มความกล้าให้คนไข้ ชาวเน็ตลั่นน่ากลัวกว่าเดิมอีก! (มีคลิป)
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ความเชื่อแห่งวงการแพทย์! เผยวิธีเอาคืนหมอด้วย “ไก่ทอดร้านดัง” บุคลากรคอนเฟิร์มได้ผลจริง!