แม้ว่าชาวเน็ตจะปลื้มปริ่มในรสพระธรรมคำสอนธรรมะที่สนุกสนานฟังง่ายของ “พระมหาไพรวัลย์” และ “พระมหาสมปอง” ผ่านไลฟ์สดเฟซบุ๊ก จนมียอดวิวทะลุ 2 แสนคน แถมยังมีแบรนด์ดังทั่วไทยเกาะชายผ้าเหลืองทำการตลาดออนไลน์แบบเรียลไทม์อย่างล้นหลาม กลับไม่ถูกใจพระผู้ใหญ่ เช่น “พระเทพปฏิภาณวาที” หรือ “เจ้าคุณพิพิธ” วัดสุทัศนเทพวรารามฯ และ “พระราชธรรมนิเทศ” หรือ “พระพยอม เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว” ก็ออกมาตำหนิเรื่องความไม่สำรวมของพระสงฆ์ทั้งสองรูปผ่านโซเชียลเมื่อ 4 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (5 กันยายน 2564) “พระมหาไพรวัลย์” ได้ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “บอกว่าไม่มีสาระ แต่เวลาพูดธรรมะ ไม่เคยเข้ามาฟัง สภาพพพพ” ซึ่งท่านได้ระบุว่า เห็นกระแสดราม่าตลอดทั้งวัน รวมถึงคำวิจารณ์ต่าง ๆ ก็ออกมาน้อมรับคำตำหนิ สยบดราม่าในวงการผ้าเหลือง พร้อมกับแสดงความคิดเห็นในมุมของท่านเองด้วยว่า
“เลิกเถอะการเคลมโดยการใช้มาตรฐานขององค์กรตัวเองไปตัดสิน อาตมาไม่มีปัญหา ใครจะวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ดีมาก ขอบคุณที่ออกมาคอมเมนต์ จะได้รู้ว่าศาสนาพุทธในเมืองไทยมีความหลากหลาย ความหลากหลายเป็นสิ่งสวยงาม อย่ามองว่าความหลากหลายคือความขัดแย้ง สังคมไทยมีภาพว่า หลากหลายคือขัดแย้ง หลากหลายคือไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ใช่ ความหลากหลายคือความสวยงามให้คนเลือกเสพ เหมือน “อ. สิปป์บวร” ว่า ทุกคนมีความรู้ ให้พื้นที่กับสังคมเถอะว่า เขาต้องการแบบไหน อย่าไปเคลมความเป็นพุทธศาสนา หรืออย่าเอาวิธีคิดพุทธศาสนาของตัวเอง ไปตอบหรือไปบังคับให้คนอื่นมองแบบเดียวกัน โดยเฉพาะถ้าทำในนามองค์กรศาสนาเนี่ย มันไม่ได้”
และระบุตอนหนึ่งว่า ถึง “พระพยอม” ว่า ท่านพูดทำให้เราเกรงใจ ท่านก็รู้ว่าเราทำไม่สำรวมไม่เหมาะสม แต่ท่านพยายามพูดให้กำลังใจ บอกคนดูเป็นหลักแสน มันเป็นปรากฎการณ์ที่มีประโยชน์ ดังนั้น ถ้าจะมีหนังสือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มา อยากให้ท่านมาพบเลย หรือโทรมาก็ได้ บอกว่าเป็นรอง ผอ. พศ. อยากจะเชิญไปปรับทัศนคติ อาตมาไปให้ แต่ให้มีท่าทีกัลยาณมิตรระหว่างกัน อย่าให้เห็นว่าเป็นศัตรูกับพระ ดูไม่ค่อยดี
นอกจากนี้ “พระมหาไพรวัลย์” ยังพูดถึง “พระมหาสมปอง” ที่ท่านก็ได้ยกคำพูด “หลวงพ่อพุทธทาส” บอกว่า เวลาทำอะไรให้ชั่งเอาว่าคุณ หรือโทษมากกว่ากัน ถ้าประโยชน์มากกว่าก็ทำไปเถอะ”
ก่อนจะพูดทิ้งท้าย จบดราม่าไม่สำรวมว่า “ธรรมะทุกวันนี้ เป็นธรรมะที่มีไว้แค่เทศน์ให้ผีฟัง บทอภิธรรมลึกซึ้งมากเอาไว้สวดตอนไหน งานศพ แล้วจะมีเพื่ออะไร มีประโยชน์ไหมสวดให้ผีฟัง ผีมันตายไปแล้วมันฟังไม่ได้ ฉะนั้น ธรรมะมันต้องมีประโยชน์ เอามาแทรก เอามาหยอด เอามาย่อย เหมือนคุณมีพระไตรปิฎกซึ่งมันเป็นสุดยอดแล้วศูนย์รวมคำสอนทั้งหมด แต่ถามก่อนว่ามันจะมีใครเข้าใจพระไตรปิฎกทั้งหมดและศึกษาด้วยตัวเอง มันไม่มี อย่าว่าแต่ฆราวาสเลย พระยังไม่อ่านเลยพระไตรปิฎก สภาพ เคยเห็นพระบวชใหม่ที่ไหนนั่งอ่านพระไตรปิฎก ไม่มี มีของดีแต่เอามาย่อยไม่ได้ เอามาสอนไม่ได้ มันไม่มีประโยชน์”
ที่มาข้อมูล Sanook และ TNN