ถือเป็นอีกเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจ หลังจากคุณแม่ท่านหนึ่งได้โพสต์เล่าเรื่องราวความสูญเสีย เมื่อลูกชายมีอาการปวดท้องอย่างหนัก โดยเธอระบุว่าได้พาลูกชายมาหาหมอ ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ มีแพทย์และพยาบาลคอยให้บริการจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้ลูกชายของเธอต้องนั่งรอบนรถเข็นอยู่นาน จนเสียชีวิตในที่สุด
สำนักข่าวอมรินทร์รายงานว่า เมื่อวานนี้ (4 สิงหาคม 2564) นางสาวเพ็ญ อายุ 40 ปี แม่ของผู้ตาย ได้ระบุว่า ลูกเคยเป็นเนื้องอกต่อมหมวกไต ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่ผ่าตัดออกแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 17:00 น. ลูกชายมีอาการปวดท้องและจุกลิ้นปี มีอาการอยากจะอาเจียนอยู่ตลอด ซึ่งตนได้ซื้อยามาให้กิน แต่อาการไม่ดีขึ้น
จากนั้นเวลา 18:00 น. ตนได้โทรศัพท์ปรึกษากับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ซึ่งอีกฝ่ายแนะนำให้เดินทางไปห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลได้ทันที แต่กว่าตนจะได้รถก็เวลา 21:00 น. โดยได้ไว้วานให้คนขับรถกระบะไปส่งตนและลูกชายที่โรงพยาบาลย่านคลองสาน
เวลา 21:30 น. ตนและลูกชายได้เดินทางมาถึงโรงพยาบาล และได้ยื่นบัตรรอคิวตรวจ ตนและลูกชายได้รอจนกระทั่งเวลา 22:30 น. ตนได้เข้าไปพูดคุยกับพยาบาลคนที่ 2 เนื่องจากลูกชายตนมีอาการหายใจไม่ออก แต่อีกฝ่ายพูดจาไม่ดี โดยกล่าวว่า “รอ ถ้าอยากรักษาที่นี่ ไม่อย่างนั้นก็ไปที่อื่น”
จากนั้นในเวลาประมาณ 23:05 น. ตนสังเกตเห็นลูกชายคอพับ บุรุษพยาบาลจึงได้ทำการจับชีพจรและวัดความดัน แต่ไม่พบค่า ก่อนมีการเร่งนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน และทำการปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิลูกชายไว้ได้ แพทย์ได้ถามตนว่า “น้องมานานหรือยัง” ตนตอบไปว่า “มารอตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่ง” แพทย์จึงเงียบไม่พูดอะไร ส่วนพยาบาลก็ได้พยายามชี้แจงว่าในห้องฉุกเฉินมีคิวอยู่ก่อนหน้า 40 คิว
หลังจากนั้นนางสาวเพ็ญจึงได้ระบุเพิ่มเติมว่าทางโรงพยาบาลได้โทรศัพท์มาหาตน พร้อมบอกว่า “ขอโทษและแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น” ซึ่งตนบอกกลับไปว่า “ขอให้เปิดกล้องดูว่าลูกชายตนไม่ได้รับการรักษาใด ๆ ไม่ใช่แพทย์และพยาบาลทุกคนไม่ดี”
ที่มาข่าว อมรินทร์