จากสถานการณ์โรค covid 19 ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยขณะนี้ ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลสั่งขยายเวลาการปิดน่านฟ้า ไปจนถึงวันที่ 18 เมษายน 2563 ไม่ให้มีการเดินทางเข้ามาภายในประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (7 เมษายน 2563) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Natcha Lapaaneknan ได้มีการโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ ระบุว่าเธอคือนักเรียนไทยที่ไปแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา และตอนนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิปิด ทำให้เธอและคนไทยอีกหลายคนไม่สามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้ ต้องติดอยู่ที่สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น
Source: Facebook
Source: Facebook
โดยเธอเล่าว่า ตอนนี้ได้รับความลำบากอย่างมาก ต้องใช้ชีวิตทั้งนอน ทั้งกินอยู่ที่เก้าอี้บริเวณหน้าเกต เนื่องจากไม่สามารถออกจากสนามบินได้ เพราะไม่มีวีซ่า อยู่แบบนี้มาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากสถานทูตแล้ว ในด้านการติดต่อสายการบิน และได้รับของใช้จำเป็น เช่น มาสก์ เจลล้างมือ ยา มอบให้
Source: Facebook
Source: Facebook
ทั้งนี้ เธอระบุว่า อยากให้เห็นใจและช่วยเหลือเธอและคนไทยอีกหลายคนให้ได้กลับบ้านด้วย เพราะหากต้องอยู่แบบนี้ก็กลัวจะติดโควิด 19จากที่สนามบิน เข้าสักวัน เพราะสนามบินก็ยังคงมีชาวต่างชาติเดินทางอยู่เรื่อย ๆ
Source: Facebook
Source: Facebook
พร้อมกันนี้ ยังเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ติดอยู่ที่สนามบินประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า เธอไปแลกเปลี่ยนที่สหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ครบกำหนด แต่ต้องกลับก่อนเพราะโควิด 19 ระบาดหนักที่นู่น เธอตัดสินใจจองตั๋วกลับไทยในวันที่ 2 เมษายน แต่ระหว่างการเดินทางไม่ทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยหรือประกาศฉุกเฉินใด ๆ มารู้อีกทีว่าสนามบินสุวรรณภูมิปิดตอนลงต่อเครื่องที่สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น ช่วงกลางคืนของวันที่ 3 แล้ว และเที่ยวบินกลับไทยก็ถูกยกเลิกเช่นกัน
“ตอนนี้ก็เข้าวันที่ 4 แล้ว ที่พวกเราคนไทยติดอยู่ที่สนามบินแห่งนี้ และยังไม่ได้ที่พักที่จะช่วยป้องกันตัวพวกเราเองจากไวรัส เนื่องจากในสนามบินยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นอยู่ในช่วงเวลากลางวัน จึงเป็นการเสี่ยงที่พวกเรายังคงพักอยู่ที่ที่โล่งในสนามบิน และร้านขายของและร้านขายอาหารในตัวสนามบินก็เริ่มปิดตัวลงเนื่องจากเที่ยวบินที่เริ่มน้อยลงและโดนยกเลิก เกรงว่าถ้าหากอยู่ที่นี่ต่อไปจะไม่มีอาหารและของใช้ที่จำเป็น วอนช่วยเห็นใจด้วยนะคะ”
