กลายเป็นเรื่องราวฮือฮาสุดอื้อฉาวในวงการตำรวจขึ้นมาทันที หลังไม่กี่วันที่ผ่านมานี้มีรายงานว่า ตำรวจยศพันตำรวจโทจังหวัดเชียงใหม่ ถูกจับได้ว่าเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และให้ลูกสาวช่วยดูแลระบบ!
งานนี้ตำรวจจริงไม่ใช่ตำรวจปลอม! ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธภรภาค 5 ได้ทำการสืบสวนพบว่า นายตำรวจยศพันตำรวจโทของโรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กลายเป็นหัวหน้าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เสียเอง!
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลบุกเข้าค้นห้องพักสองแห่งที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนพบอุปกรณ์กระจายสัญญาณ ซิมบ็อก (SIMBOX) ที่กลุ่มเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ติดตั้งไว้ทั้งหมด 12 เครื่อง พร้อมจับกุมผู้ต้องหารวม 4 คน เป็นหญิงชาวไทย 2 คน, ชายชาวไทย 1 คน และหญิงชาวเมียนมาอีก 1 คน ในข้อหา “ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือ ค้าซื้อเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกในอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต และร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม”
ต่อมาเมื่อทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม พบว่า “พ.ต.ท.บัณฑิต” สารวัตรอำนวยการ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ผู้เป็นพ่อของหนึ่งในผู้ต้องหานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การตรงกันว่าพ.ต.ท.บัณฑิต เป็นคนช่วยจัดหาห้องเช่าและเคยมาช่วยติดตั้งเครื่องซิมบ็อก อีกทั้งยังเป็นตัวเชื่อมในการติดต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และให้ลูกสาวชวนเพื่อนมาช่วยกันดูแลระบบ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมพ.ต.ท.บัณฑิตคาผ้าเหลือง หลังจากไปบวชในวัดแห่งหนึ่ง อ.งาว จ.ลำปาง โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นหัวหน้าแก๊ง เป็นเพียงผู้ร่วมขบวนการเท่านั้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: แล้วก็ขยันตอบซะด้วย! ชาวเน็ตแชร์วิธีรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้น้องอัลปาก้าคุยแทน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: (มีคลิป) ไปไม่ถูกเลย! เมื่อ “ชิซุกะ” ต้องรับมือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ทำเอาชาวเน็ตเอ็นดูหนักมาก!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: นางเอกก็ไม่เว้น! “แอฟ ทักษอร” เล่านาทีปะทะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกคนร้ายตั้งข้อหาบีบเสียง!?