เรียกได้ว่าเป็นการสร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการภาพยนตร์ไทยได้กลับมาคึกคักน่าจับตามองอีกครั้งหลัง สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “4 Kings” หนังตำนานนักเรียนอาชีวะยุค 90 เพราะทันทีที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันแรกทำรายได้ไปถึง 10 ล้านบาท และยังคงพุ่งทะยานไม่หยุดเตรียมมุ่งหน้าสู่ 100 ล้านบาท นับว่าเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
Source; khaosod
และเมื่อหนังได้ฉายไปแล้ว ก็มีกรณีของกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน ซึ่งแต่งตัวคล้ายกับนักเรียน นักศึกษา เรียนสายอาชีวะยกพวกวิ่งไล่พยายามทำร้ายร่างกายกันบริเวณลาดจอดรถจักรยานยนต์ประตูทางเข้า-ออกฝั่งโรงหนังของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้านบริเวณนั้นได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ได้ก่อนนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความ “เบิ่งหนัง กะหยังตีกันเนาะ อินเกินจริง” ซึ่งคาดว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวพยายามวิ่งไล่ทำร้ายกัน หลังจากออกมาจากการดูภาพยนตร์เรื่อง “4 Kings”
Source: matichon
ล่าสุดวันที่ 12 ธันวาคม 2564 พ.ต.อ. พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ. เมืองกาฬสินธุ์ สั่งการและจัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่จราจร และชุดสืบสวน เฝ้าสังเกตการณ์กลุ่มของวัยรุ่นและดูแลความสงบเรียบร้อยประตูทางเข้า-ออกห้างสรรพสินค้า ฝั่งโรงหนัง และจัดกำลังดูแลความเรียบร้อยหน้าโรงหนังภายในห้าง และเฝ้าสังเกตการณ์ทุกรอบที่ฉายหนังเรื่อง “4 KINGS” เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และป้องกันการรวมกลุ่มของวัยรุ่นหลังดูหนังเสร็จ หากพบมีพิรุธและมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้าระงับเหตุทันที
Source: dailynews
พ.ต.อ. พัทฐกร กล่าวว่า สำหรับกรณีมีคลิปข่าวกลุ่มวัยรุ่นยกพวกไล่กันที่หน้าห้างกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งวันเกิดเหตุตำรวจ สภ. เมืองกาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบพบมีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ประมาณ 25 คน ต่างสวมเสื้อกันหนาว กางเกงขายาว สวมแมสก์ ไม่ปรากฏตราสัญลักษณ์ของสถาบันหรือของกลุ่ม และไม่มีอาวุธแต่อย่างใด ได้ยกพวกจะเข้าทำร้ายกัน แต่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ธนาคารร้านทองในห้าง และรปภ. ของห้างได้เข้าห้ามปราม
Source: dailynews
โดยหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนกลุ่มวัยรุ่น พร้อมทั้งชี้ให้เห็นโทษภัยที่จะเกิดขึ้นแก่ตัวเองและบิดามารดา หากมีการมั่วสุมและทำร้ายกัน ก่อนจะแจ้งให้แยกย้ายกันออกจากพื้นที่ ซึ่งไม่มีทรัพย์สินผู้ใดเสียหายหรือเป็นอันตรายแก่ชีวิตร่างกายแก่ผู้ใด รวมทั้งยังไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับใคร
ขณะที่เพจตำรวจสอบสวนกลาง โพสต์ข้อความระบุว่า 4 ข้อหาสำหรับขาโจ๋ ยกพวกตีกันอย่าคิดว่าเจ๋ง อาจต้องไปนอนร้องเอ๋งที่โรงพัก การทะเลาะวิวาทมีเรื่องต่อยตียกพวกไปทำร้ายร่างกายผู้อื่นหรือยกพวกตีกัน จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจนั้น การกระทำในลักษณะนี้มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
Source: dailynews
การมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และยกกันไปทำร้ายหรือขู่ว่าจะทำร้าย และสร้างความวุ่นวาย อาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ป. อาญา ม. 215)
ถ้าผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับผู้กระทำความผิดที่เป็นหัวหน้า หรือมีหน้าที่สั่งการกระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากยกพวกตีกันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้กระทำจะถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปีถึง 20 ปี (ป.อาญา ม.288)
ผู้ที่ร่วมกระทำความผิดยกพวกไปทำร้ายร่างกายผู้อื่นหรือยกพวกตีกัน ในกรณีได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ผู้ร่วมก่อเหตุจะไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหาย และไม่มีสิทธิ์เรียกร้องการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เนื่องเป็นผู้สมัครใจและเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยผู้ที่ลงมือก่อเหตุก่อนจะไม่สามารถอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวตามกฎหมายได้
ที่มาข่าว: ch3plus และ ข่าวสด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: อย่าหาทำ! “กาแฟผสมยาอี” ออกฤทธิ์แรงกว่าปกติ 10 เท่า ถึงตายได้ ตร. เผยระบาดหนักในหมู่วัยรุ่น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: โดน 3 ข้อหา หนุ่ม 21 มือมีดแทงวัยรุ่นเจ้าถิ่น แตกกระเจิง ตาย 2 เจ็บ 1 หลังยกพวกครึ่งโหลหาเรื่องถึงบ้าน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: วัยรุ่นม็อบดินแดงถูกจับ 18 ราย พร้อมยึดจักรยานยนต์อีก 31 คัน แถมทำลายโรงพยาบาลและทรัพย์สินราชการ
