หลังจากที่ซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Snowdrop” ที่นำแสดงโดย “จองแฮอิน” และเป็นผลงานกระแสดงเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกของ “จีซู BLACKPINK” ได้ออกอากาศตอนแรกไปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ตัวซีรีส์ก็ต้องพบเจอกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ในประเด็นเรื่องการบิดเบือนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการดูหมิ่นขบวนการประชาธิปไตย อีกทั้งยังถูกโจมตีว่านักเขียน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ “ยุนอีซัง” ที่ถูกทรมาน เพราะถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ว่าเป็นหน่วยสืบราชการลับจนทำให้มีชาวเน็ตพากันลงชื่อเพื่อถอดซีรีส์เรื่องนี้ออกจากการออกอากาศ กว่า 2 แสนคน
จนทำให้สปอนเซอร์หลายรายพากันถอนสปอนเซอร์ออกไปจากซีรีส์เรื่องนี้ และพากันทยอยออกมาขอโทษผู้ชม ที่เป็นสปอนเซอร์ให้ซีรีส์บิดเบือนประวัติศาสตร์
ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจต่าง ๆ เมื่อวานนี้ (21 ธันวาคม 2564) ทาง JTBC ก็ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นการบิดเบือนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เพื่อแสดงจุดยืนของตัวเอง โดยระบุว่า
“พวกเราต้องการเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้ เพื่อแสดงจุดยืนเกี่ยวกับข้อพิพาทล่าสุดของซีรีส์เรื่อง “Snowdrop” และที่เราต้องออกมาแสดงจุดยืนนี้ก็เป็นเพราะประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดความขัดแย้งมากมาย ซึ่งไม่ได้มีทีท่าว่าจะลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากข้อมูลที่แตกต่างออกไปจากข้อเท็จจริง
ประการที่หนึ่ง ภูมิหลังของเหตุการณ์หลัก ๆ ในเรื่อง Snowdrop คือการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในช่วงระบอบการปกครองทหาร โดยเป็นเรื่องราวที่สมมุติขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นเกี่ยวกับวิธีการรักษาอำนาจของฝ่ายกุมอำนาจ โดยการร่วมมือกับการปกครองของเกาหลีเหนือ โดยซีรีส์ Snowdrop นี้เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ ซึ่งสามารถเล่าเรื่องในมุมมองของผู้ที่ต้องเสียสละตนและถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจเหล่านั้น
ซีรีส์เรื่อง Snowdrop ไม่มีสายลับที่มาเป็นแกนนำฝั่งประชาธิปไตย ไม่มีฉากที่ตัวละครหลักทั้งชายและหญิงมีส่วนร่วมในการประท้วงและเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ทั้งในตอนที่ 1 และ 2 รวมไปถึงในบทหลังจากนั้น
สำหรับความเข้าใจผิดทั้งหมดเกี่ยวกับประเด็นการบิดเบือนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ จะได้รับการคลี่คลายผ่านพัฒนาการของเรื่องราวในตอนต่อ ๆ ไปในอนาคต ทางทีมผู้ผลิตมีเจตนารมณ์ที่ไม่ต้องการให้เหตุการณ์อันเลวร้าย อันทำให้เสรีภาพและความสุขของผู้คนต้องถูกกดขี่เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก
น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเปิดเผยเนื้อหาของเรื่องได้มากกว่านี้ แต่เราอยากขอให้ทุกคนจับตาดูพัฒนาการของเนื้อหาต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ทาง JTBC ยังได้วางแผนที่จะรับฟังเสียงตอบรับของผู้ชมมากยิ่งขึ้น โดยเราจะเปิดห้องแชทแบบเรียลไทม์บนเว็บไซต์และกระดานข่าว เพื่อรับฟังความคิดเห็นอันมีค่าเกี่ยวกับเนื้อหาของซีรีส์ในแต่ละตอน
ค่านิยมหลักที่ JTBC แสวงหาคือเสรีภาพในการสร้างเนื้อหาและความเป็นอิสระของการผลิต จากสิ่งนี้ JTBC จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผลิตผลงานที่ดียิ่งขึ้นอีกในอนาคต”
อย่างไรก็ตามหลังจากออกแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว ฝั่งชาวเน็ตเกาหลีเองก็ยังคงออกอาการผิดหวังกับแถลงการณ์นี้ โดยชาวเน็ตบางส่วนได้แสดงความคิดเห็นว่า “ซีรีส์เรื่องนี้ควรถูกถอดไปซะ”, “ข้ออ้างนี่ยาวสุด ๆ ไปเลย”, “ฉันไม่คิดว่าพวกเขาเข้าใจปัญหาจริง ๆ ที่เกิดขึ้นหรอก”, “ฉันว่าปัญหามันอยู่ที่ฉากในเรื่องและตัวละครต่างหาก”, “ฉันสะอิดสะเอียนมากที่พวกเขาบอกว่าเปิดเผยเนื้อหาไม่ได้เพราะกลัวจะเป็นการสปอยล์”, “ว้าว ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังโทษคนดูที่เข้าใจผิดไปเองอย่างงั้นแหละ” และ “คือพวกเขาจะบอกว่ามีสายลับเกาหลีเหนือในเรื่อง แต่ไม่มีสายลับที่ขับเคลื่อนประชาธิปไตยแบบนี้เหรอ?“
ตอนนี้สถานการณ์ของซีรีส์ Snowdrop ยังอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดของหลาย ๆ ฝ่าย และเราทุกคนคงต้องร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่ากระแสจะไปในทิศทางไหน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: แฟนคลับรัสเซียซื้อที่ดินในสกอตแลนด์ให้ “จีซู BLACKPINK” เป็นของขวัญเดบิวต์ในฐานะนักแสดง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: JTBC เผยวันออกอากาศอย่างเป็นทางการของซีรีส์ Snowdrop นำแสดงโดย “จองแฮอิน” และ “จีซู BLACKPINK”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: JTBC เผยโปสเตอร์แรกของซีรีส์ Snowdrop นำแสดงโดย “จองแฮอิน” และ “จีซู BLACKPINK”