เป็นกระแสดราม่าข้ามคืน สำหรับกรณีที่นักแต่งเพลงและเมนเทอร์ชื่อดัง “หนึ่ง จักรวาล” โพสต์คลิปจับก้นและพุงลูกสาว จนเกิดเป็นประเด็นดราม่าทั่วโลกออนไลน์ และมีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ล่าสุด #หนึ่งจักรวาล พุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ประเทศไทย และมียอดทวีตทะลุ 1 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว
นอกจากนี้บนโลกออนไลน์ยังได้มีการแชร์ข้อความจากเพจนักสังคมสงเคราะห์อย่าง นักสังคมสงเคราะห์เล่าเรื่อง ที่ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดราม่านี้ในมุมมองของนักสังคมสงเคราะห์ โดยระบุว่า
“กำลังเป็นกรณีดังในขณะนี้กับการที่นักดนตรีชื่อดังท่านหนึ่ง มีคลิปวีดีโอที่แสดงความรักต่อลูกสาวโดยการสัมผัสใกล้ชิดผ่านการจับหน้าอก บางคลิปมีการล้วงกางเกงเพื่อจับก้นลูกด้วย
ในเบื้องต้นแอดมินขอยืนยันว่าเด็กจำเป็นและคู่ควรที่จะได้รับความรักผ่านการสัมผัส เช่น กอด หอม จากพ่อแม่ แต่การสัมผัสเหล่านั้นต้องสอดคล้องกับขอบเขตที่เหมาะสม และเป็นไปด้วยความเต็มใจของเด็ก (ขอบเขตที่ไม่เหมาะสม แม้เด็กเต็มใจก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้)
หลักสูตรและการเรียนรู้ที่สำคัญในการสอนเด็กให้สามารถระบุภัยทางเพศ คือการสอนให้เด็กรู้จักความรู้สึกที่ดี และความรู้สึกที่ไม่ดี ควบคู่ไปกับการรู้จักอวัยวะในร่างกายของตนเอง และขอบเขตทางร่างกายที่รู้สึกปลอดภัย และลำดับขั้นการอนุญาตที่เด็กจะมีให้คนแต่ละคนเข้ามาใกล้ หรือสัมผัสอวัยวะแต่ละส่วนของเขา
กฎเหล็กที่สำคัญคือ ในกรณีที่เด็กสามารถจัดการธุระของตนเองได้ เช่น ล้างฉี่ ล้างก้นได้แล้ว แม้แต่คนใกล้ตัวเด็กมากที่สุดอย่างพ่อแม่ ก็ไม่ควรหรือไม่มีสิทธิที่จะจับ สัมผัส อวัยวะปกปิด ซึ่งประกอบไปด้วย หน้าอก ก้น อวัยวะเพศของเด็กได้อย่างปกติ ยกเว้นในกรณีที่เด็กเจ็บป่วยหรือต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลเพียงเท่านั้น
เหตุที่เราจำเป็นต้องสอนเด็กเช่นนี้เพราะว่าถ้าเด็กถูกจับและสัมผัสอวัยวะปกปิดจนเป็นสิ่งปกติ เขาเองจะไม่เรียนรู้ขอบเขตที่เหมาะสมทางด้านร่างกายและเรียนรู้ความรู้สึกการเป็นเจ้าของเนื้อตัวร่างกายของเขาเอง ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะถูกทารุณกรรมทางเพศจากผู้ใกล้ชิด และจากข้อมูลสถิติ ผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กส่วนใหญ่คือบุคคลใกล้ชิดที่เด็กไว้วางใจ แอดมินเจอมาแล้วค่ะ พ่อแท้ ๆ ปู่แท้ ๆ น้า อา แท้ ๆ มีหมด
เวลาสอนเด็กเราจึงบอกเสมอว่าถ้ามีใครมาจับ ก้น นม จิ๋ม หรือ จู๋ (เด็กในบางพื้นที่ก็เรียกว่าหี ควย ดอ เป็ด ก็มีค่ะ) ให้มาบอกพ่อแม่ หรือถ้าพ่อแม่จับก็ให้มาบอกคุณครู เพื่อที่เราจะได้ทำงานกับครอบครัวเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าพ่อแม่ยังไม่เข้าใจเราจำเป็นต้องให้พ่อแม่เข้าใจความจำเป็นในเรื่องนี้
สรุปประเด็นนี้นะคะ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พฤติกรรมที่คุณพ่อแสดงต่อน้องนั้น “ไม่เหมาะสม” ค่ะ
แอดมินขอฝากทุกท่านว่าเรื่องนี้คือเรื่องไม่ปกติ ขอความกรุณาทุกท่านปฏิบัติต่อเด็กด้วยความเคารพต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว ต่อเนื้อตัวร่างกายของพวกเขา
เราเป็นผู้ใหญ่หน้าที่ของพวกเราคือการคิดเยอะ ๆ ค่ะ เพราะเกิดเหตุวิพากษ์วิจารณ์มาแม้พ่อแม่เองไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่ผลกระทบเหล่านี้เกิดขึ้นกับเด็กแน่นอน อย่างน้อย ๆ คือการมีรอยเท้าบนโลกออนไลน์ที่ครั้งหนึ่งพ่อและแม่พาเขาเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้”
อ่านบทความใหม่ล่าสุดก่อนใคร กดติดตามเราไว้เลย: