ชาวทวิตเตอร์ถกกันสนั่นจนไทม์ไลน์ร้อนระอุ! หลังเกิดประเด็นดราม่า “โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา จุฬา–ราชภัฏ” จน #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน ขึ้นเทรนด์ไทย!
กำลังเป็นประเด็นดราม่าสุดร้อนแรงในโลกทวิตเตอร์อยู่ ณ ขณะนี้ สำหรับ #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน ที่กลายเป็นที่พูดถึงจนติดอันดับเทรนด์ไทย ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดได้เริ่มต้นจากชาวทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้ลงภาพคอมเมนต์จากเฟซบุ๊กที่เป็นต้นเหตุของประเด็นนี้ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยคอมเมนต์ดังกล่าวได้ระบุข้อความไว้ว่า “อยากให้มีโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน เอาเด็กจุฬาไปเรียนราชภัฏเทอมนึง ใช้ข้อสอบของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ สอบ ตัดเกรดกันที่มหาลัยที่ตัวเองไปแลกเปลี่ยน พวกคุณจะได้รู้ว่าเด็กราชภัฏไม่ได้โง่ เด็กราชภัฏก็มีคุณภาพ ไม่เชื่อลองทำดูสิ #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน”
หลังจากที่ทวีตนี้ถูกเผยแพร่และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ก็ทำให้มีชาวเน็ตหลายต่อหลายคนแห่กันเข้ามาทวีตแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ทั้งใน Reply และใน #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน โดยแต่ละคอมเมนต์ก็จะเปิดให้เห็นถึงมุมมองต่อเรื่องราวดังกล่าวที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งมุมมองของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อความในภาพคอมเมนต์เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น ในเมื่อสอบติดมหาวิยาลัยจุฬาฯ แล้ว ซึ่งขณะเดียวกันก็มีผู้ที่แชร์มุมมองของตัวเองในลักษณะที่ไม่ควรเหยียดมหาวิทยาลัยในเครือราชภัฏด้วยอีกเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างความคิดเห็น
“ถ้า #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน แล้วจะอยากแลกเปลี่ยนไปทำไม ในเมื่อมั่นใจว่าม. และหลักสูตรที่ตัวเองเรียนมีคุณภาพเท่าที่อื่น สาเหตุที่มี ranking ก็เพราะเอาไว้ย้ำเตือนไงว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ตรงไหน ต้องพัฒนาอะไรอีกบ้าง เพราะบางคนคิดว่าตัวเองเก่งที่สุด/เท่าคนอื่นแล้ว ทั้งที่จริงอาจจะไม่ใช่”
“แล้วก็จะมีคนบอกเรียนที่ไหน จบที่ไหนก็เหมือนกัน บอกเลยค่ะว่าไม่เหมือน รับความจริงให้ได้อย่าปลอบใจตัวเอง”
“ยังไงดีล่ะ ไม่เห็นด้วยกับการดูถูกราชภัฏแบบเหมารวม แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการปกป้องราชภัฏด้วยการเหยียดมหาลัยที่ rank สูงกว่า เราไม่สามารถแก้ปัญหา discrimination ด้วย discrimination อะ #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน”
“ประเด็นที่ควรสนใจคือ ทุกสถานศึกษาควรมีคุณภาพที่ดีใกล้เคียงกันทั้งหมดทั่วประเทศ เพื่อความเท่าเทียมทางการศึกษา”
นอกจากประเด็นของหลักสูตรการศึกษาแล้ว ชาวทวิตเตอร์หลายคนยังคงถกกันเกี่ยวกับเรื่องของลักษณะสังคมในรั้วมหาวิทยาลัยที่มีความแตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งตั้งแต่วันที่ทวีตดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป (23 กรกฎาคม 2565) จนถึงวันนี้ (26 กรกฎาคม 2565) นั้น #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน ก็ยังคงถูกทวีตกล่าวถึงกันอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถคลิกอ่านคอมเมนต์อื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ: Twitter #เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน และ Twitter @peet_sebastian
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: แทบจะเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว! ร้านไอศกรีมเปิดรับสมัครเลขา “หน้าสวยและไม่อ้วน” งานนี้มีดราม่า!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ปลดสายฟ้าแลบ! หนุ่มภูฏานจากเวที Mister National World 2022 หลังโป๊ะโชว์หวิวใน OnlyFans!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: “ทราย เบญจพร” งงหนัก! หลังโดนต่างชาติหาว่าบูลลี่ “วอนยอง IVE” เหตุเพราะคอสเพลย์ถือไอศกรีม