เรื่องราวของชายชาวนาธรรมดาในประเทศจีนคนหนึ่งกำลังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก เมื่อเขาใช้เวลายาวนานกว่า “16 ปี” ศึกษากฎหมายด้วยตัวเอง เพื่อเอาชนะคดีที่ต่อสู้กับโรงงานเคมีขนาดใหญ่ที่ปล่อยน้ำเสียลงในพื้นที่เพาะปลูกของเขา

EcoWatch
“หวัง อิงหลิน (Wang Englin)” ชาวนาวัยกว่า 60 ปี จากหมู่บ้านใกล้เมืองฉีชีฮาร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และเคยเข้ารับการศึกษาตามหลักสูตรจีนเพียง 3 ปี ทำให้ทางเลือกในการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเองนั้นมีเพียงน้อยนิด เป็นเหตุให้เขาต้องผันตัวเป็นเกษตรกร และอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กที่จ่ายค่าเช่าเพียง 270 บาทต่อเดือน แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับยังต้องเผชิญกับเคราะห์ใหญ่ในชีวิตอีก เพราะในปี 2001 โรงงานเคมีของรัฐชื่อว่า “Qinghua Group” เริ่มปล่อยน้ำเสียและของเสียจากการผลิตโพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) ลงในพื้นที่การเกษตรใกล้บ้านของเขา
และแล้วในคืนหนึ่ง ขณะ “หวัง อิงหลิน” กำลังเล่นไพ่และทำอาหารกับเพื่อนบ้านในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน แต่จู่ ๆ น้ำปนสารเคมีก็ไหลทะลักเข้ามาในบ้านของเขา จากวันนั้นเป็นต้นมาพื้นที่กว่า 179.56 ไร่ ก็ไม่สามารถทำการเกษตรได้อีก และบ่อน้ำขนาดใหญ่กว่า 1,208.86 ไร่ ก็ถูกเติมเต็มด้วยของเสียจากโรงงานดังกล่าว

EcoWatch
เขาพยายามร้องเรียนกับทางการ แต่กลับถูกเพิกเฉย ดังนั้น “หวัง อิงหลิน” จึงตัดสินใจ “ลุกขึ้นสู้ด้วยความรู้” เขาเริ่มศึกษาเรื่องกฎหมายสิ่งแวดล้อมด้วยตัวเองในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง โดยต้อง “คัดลอกเอกสารทางกฎหมายด้วยมือ” และจ่ายค่าบริการให้เจ้าของร้านเป็น “กระสอบข้าวโพด” แทนเงิน เขาเผยกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “ผมรู้ว่าผมถูกรังแก แต่ไม่รู้ว่ากฎหมายข้อไหนที่พวกเขาละเมิด และจะหาหลักฐานอย่างไร”
หลังจากศึกษากฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมด้วยตัวเองมานานถึง 5 ปี เขาเริ่มได้รับคำปรึกษาฟรีจากศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม (Centre for Legal Assistance to Pollution Victims) และในปี 2007 เขาได้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นครั้งแรก แม้จะถูกเลื่อน ถูกเมิน และถูกฟ้องกลับหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้

Britannica/ภาพประกอบบทความ: ทุ่งนาในประเทศจีน
ในที่สุด หลังจาก “หวัง อิงหลิน” ต่อสู้คดีกับโรงงานเคมียักษ์ใหญ่ของรัฐมายาวนานกว่า 16 ปี คดีของเขาก็เข้าสู่การพิจารณาในศาลแขวงอันกังซี (Angangxi District Court) และผลตัดสินในปี 2017 ผลปรากฏว่าศาลได้พิพากษาให้ “หวัง อิงหลิน” และเพื่อนบ้านชนะคดี โดยโรงงาน “Qinghua Group” ต้องชดใช้ค่าเสียหายกว่า 4.2 ล้านบาท
แม้ทางโรงงานจะประกาศเตรียมยื่นอุทธรณ์ แต่ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็น “สัญลักษณ์แห่งความยุติธรรมของประชาชนธรรมดา” ที่ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจของทุนใหญ่และระบบราชการ และยังเป็นแรงเตือนใจของคนทั้งโลกว่า “แม้ไม่มีอำนาจ แต่หากมีความรู้และความยืนหยัด ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ยุติธรรมได้จริง”
ที่มาข้อมูล: The Independent
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: ทนายสาวอเมริกันโสดมา 5 ปี วอนคนช่วยหาสามี ใครทำได้รับเงินแสน!
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: เปิดวาร์ป “ปาย-เอมมิกา สุดพันธ์” ทนายสาวคนสวย ที่ทำชาวเน็ตหลุดโฟกัสจากข่าว “ป้าปูนา” ในรายการ “โหนกระแส”
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: “ขวัญ อุษามณี” ปลื้มหนักมาก ถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกสภาทนายความ
