ประเทศไทยบ้านเรามีอะไรดีนักนะ ทำไมบรรดาฝรั่งต่างชาติถึงอยากหอบกรเป่าเข้ามาอยู่หรือทำงานที่นี่กัน ทั้งที่การจะมาอยู่ที่นี่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเช่นกัน มาดูกันว่าฝรั่งต่างชาติทั้ง 3 คน ใช้ชีวิตในประเทศไทยยังไงบ้าง พวกเขาคิดว่ามันแย่หรือไม่แย่ บ้านเรามีอะไรดีและไม่ดีบ้าง
1. โดยรวมแล้วถือว่าไม่แย่ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอินเตอร์เน็ทแรงสูงมากๆ
มันก็ไม่ได้แย่ซักเท่าไหร่นะ อากาศดี ไม่ค่อยร้อนมาก 30 องศา บางครั้งก็ 40 องศา แต่ไม่นานนัก ก็แล้วแต่ว่าคุณอยู่ภาคไหนของประเทศไทย ถ้าอยากหนาวเย็นก็ภาคเหนือ แต่อุณหภูมิจะไม่ติดลบ
ผู้คนที่นี่เป็นมิตร และต้อนรับแม้กระทั่งคนแปลกหน้า
ในขณะที่ประเทศไทยไม่ได้ถูกจัดให้เป็นชาติแรกของโลก แต่ก็อยู่ไม่ไกล ไม่ใช่ประเทศโลกที่สามแน่นอน ฮ่าๆ โครงสร้างพื้นฐานที่นี่ก็ดี ถนนทำได้ดี น้ำใฟใช้งานได้ก็ดีเยี่ยม เหมือนๆกับที่อื่นๆ และต้องบอกเลยว่าประเทศไทยมีอินเตอร์เน็ทที่แรงและเร็วมากมีเคเบิ้ลที่ดีสุดๆ
ประเทศไทยสุดยอดตรงที่ มีแหล่งช็อปปิ้งมากมายตั้งแต่แผงลอยริมถนนตลาดหัวมุมไปจนถึงห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์และมีทุกสิ่งทุกอย่างอย่างขายระหว่างทางเดินไปที่นั่น
ในเรื่องของศาสนานั้นไม่เป็นพิษเป็นภัย เพราะคุณไม่ต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธเหมือนกับพวกเขา ที่นี่ไม่มีการบังคับเรื่องศาสนาเลย
มีอาหารเลิศรสตั้งแต่ริมทางไปจนถึงสเต็กระดับโรงแรม 5 ดาว ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอาหารขายเต็มไปหมดทุกที่ และมีอาหารหลากหลายชนิดทุกเชื้อชาติเลย
ในส่วนของธุรการ การอยู่ที่นี่มีความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก โครงสร้างพื้นฐานอาจมีความทันสมัย แต่กระบวนการบริหารแทบจะไม่มีประสิทธิภาพเอาซะเลย ตัวอย่างเช่น ที่ธนาคารเพื่อเปิดบัญชี คุณอาจต้องเซ็นเอกสารจำนวนมากที่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้มีความสำคัญมากเท่าไรต่อพื้นฐานของธนาคาร เช่นเดียวกับการทำวีซ่าในประเทศไทย คิวยาวมากๆจนกินเวลาไปทั้งวัน
จราจร การเป็นเจ้าของรถที่นี่มีราคาถูก แต่การจราจรแย่สุดๆ ติดขัด แต่เรื่องนี้มันอาจจะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นของคนไทยเท่าไร ในกรุงเทพฯการขมส่งด้วยรถไฟสาธารณะแม้จะมีราคาแพง แต่ก็ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แท็กซี่มีราคาถูก
โดยรวมแล้วชีวิตในประเทศไทย หรือกรุงเทพ ผมถือว่าดีพอสมควรสำหรับผมนะ นี่เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ปละวัฒนธรรม ทำให้ผมได้ชื่นชมหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต ผู้คนส่วนใหญาก็เป็นมิตร แต่จะมีบ้างที่พวกเขาหลีกเลี่ยงชาวต่างชาติด้วยเรื่องของภาษาการสื่อสาร คนไทยบางคนมักจะกลัวที่จะคุยกับฝรั่งอย่างผม ฮ่าๆ
Charles Hubbard
2. ประเทศไทยควรเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของการเข้าเมืองและการทุจริตในหมู่ของเจ้าหน้าที่
ในฐานะต่างชาติ (ต่างชาติที่ไม่ใช่เอเชียไม่ใช่นิโกรและไม่ใช่อาหรับนะ) สาวๆไทยชอบพวกเรามาก ไม่ใช่แค่ชอบเราแต่เพียงเรื่องเงินเท่านั้น อันนั้นมันไม่ใช่ประเด็นหลักของพวกเธอเลย แต่จริงๆแล้วพวกเธอชอบสไตล์ของฝรั่งมากกว่า ไม่ใช่สาวไทยทุกคนจะเห็นแก่เงินหรือชอบฝรั่งเพราะเงิน เพราะพวกเธอเองก็สามารถหาเงินเองได้เช่นกัน
ในเรื่องของค่าครองชีพในประเทศไทย ถูกมากๆ ผมอาศัยอยู่ที่นี่กับเงิน 500 ยูโรต่อเดือน แม้จะต้องแบ่งเป็นสองส่วนกับภรรยาไทยของผม แต่เราใช้มาตรฐานของชาวตะวันตก
คนไทยมีความเป็นมิตรและใจดีมาก พวกเขาสามารถเปิดการสนทนาได้อย่างง่ายๆกับใครสักคนในไม่กี่วินาที และแท็กซี่ที่นี่ก็สามารถเป็นเพื่อนคุยร่วมทางที่ดีที่สุดของคุณได้ อย่างเช่น เมื่อผมและภรรยาไทยขึ้นแท็กซี่ พวกเขาคุยกันเป็นภาษาไทย หัวเราะเหมือนสนิทสนมมาหลายปี แต่จริงๆแล้วพวกเขาเพิ่งพบกันครั้งแรก เขาคุยกันเหมือนคนรู้จัก แต่เมื่อผมถามเธอว่ารู้จักกันใช่ไหม เธอบอกว่าไม่รู้จักเขา ฮ่าๆ ประเทศไทยเปิดกว้างมากในเรื่องการพูดคุยกับคนแปลกหน้า
ชีวิตในเมืองไทยเรียบง่าย แต่เสียตรงที่คุณจะต้องใช้ชีวิตในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเสมือนทั้งชีวิตของคุณในนั้น และผมคิดว่าประเทศไทยคือประเทศสุดท้ายที่ทุกคนควรพิจารณาที่จะอยู่ในระยะยาวหากพวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตนะ มีทางเลือกที่ดีกว่าที่นี่อีกเยอะแยะมากมาย จนกว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของการเข้าเมืองและการทุจริตในหมู่เจ้าหน้าที่เหล่านั้น
Alex Louis
3. รวมๆแล้วประสบการณ์ในประเทศไทยของผมให้เป็นไปในทางเชิงบวก สถานะการรักษาพยาบาลในประเทศไทยดีมากๆ
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยจริงๆ คนส่วนใหญ่คิดว่าต่างชาติในไทยต้องได้เงินเดือนเยอะ สิ่งนี้ไม่เป็นความจริงเสมอไป ครูบางคนมีเพียงรายได้ประมาณ 30,000 บาท และผู้ที่ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมจะต้องเสียภาษีค่อนข้างสูง แต่โดยส่วนตัวผมจ่ายเยอะกว่านี้ตอนผมทำงานอยู่ที่สิงคโปร์
เกี่ยวกับภาษาหากชาวต่างชาติสามารถอ่านเขียนและพูดภาษาไทยได้นั้น พวกเขาจะสามารถทำงานกลมกลืนกับคนท้องถิ่นได้เร็วมากขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับการทำงานและการใช้ชีวิต นี่อาจเป็นอุปสรรคเล็กน้อยของชาวต่างชาติที่ไม่มีความกระตือรือรือที่จะเรียนรู้ภาษาไทย อย่างน้อยก็ควรรู้ไว้บ้าง
เกี่ยวกับในเรื่องของพื้นที่ ถ้าใครอยู่ในกรุงเทพฯ นี่เป็นเมืองที่ทันสมัยมากในระดับหนึ่ง คุณจะสามารถเข้าถึงสิ่งของฟุ่มเฟือยและสิ่งยั่วยวนใจ แสง สี เสียง และสินค้านำเข้าอีกมากมาย หากใครที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทของไทยก็อาจจะเครียดน้อยลงในเรื่องของการเดินทางไปทำงานในแต่ละวัน เพราะในกรุงเทพเครียดมากๆเลยครับ
เกี่ยวกับธุรการ ผมต้องบอกก่อนว่าที่นี่มีความหงุดหงิดมาก ประเทศไทยต้องพัฒนาสิ่งนี้อย่างจริงจังนะ โครงสร้างพื้นฐานอาจมีความทันสมัย แต่กระบวนการบริหารแทบจะไม่มีประสิทธิภาพเอาซะเลย
นอกนั้นผมว่าคนไทยมีความอบอุ่น น่ารัก และพวกเขาให้เกียรติผมมากๆ เกือบทุกคนในเมืองรู้ว่าผมเป็นใครและผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (คนส่วนใหญ่รู้ว่าผมได้เงินเดือนเท่าไร) มีเรื่องขำๆอยู่ครั้งหนึ่งหลังที่จากผมกลับจากการเดินทาง ในวันนั้นผมให้คนขับรถตุ๊กๆไปส่งที่หน้าบ้านผม หลังจากที่เขาส่งผมเสร็จ เขาหันมาพูดกับผมด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยได้ของเขาว่า “ฉันรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน ทุกคนรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน” ฮ่าๆๆ
เพราะโดยปกติแล้วคนไทยให้ความเคารพผู้เป็นครูอย่างมากกว่าที่ผมเคยคาดคิดไว้ ในขณะที่ผมอยู่แคลิฟอร์เนียพวกนักเรียนจะไม่ค่อยเคารพครูสักเท่าไร ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ดีเลยทีเดียว ผมเป็นชาวผิวดำและแน่นอนว่าการอยู่ที่ประเทศไทยก็มีบ้างที่จะได้ยินคำพูดเหยียดสีผิว แต่ส่วนใหญ่จะมาจากฝรั่งด้วยกันเองทั้งนั้น แต่จะมีน้อยมากที่ได้ยินจากเหล่าคนไทย แต่ที่นี่ก็ถือว่าได้ยินคำพูดแบบนั้นน้อยกว่าที่บ้านเกิดของผมเอง
รวมๆแล้วประสบการณ์ในประเทศไทยของผมให้เป็นไปในทางเชิงบวก สถานะการรักษาพยาบาลในประเทศไทยดีมาก แต่ผมไม่มีและไม่สามารถขอรับประกันสุขภาพจากบริษัทในไทยได้เนื่องจากเงื่อนไขที่มีอยู่ นั่นหมายความว่าทุกการรักษาพยาบาลใดๆที่ผมได้รับ ผมต้องใช้เงินของตัวเองจ่ายไปจากนั้นผมก็สามารถขอรับการชำระเงินคืนได้จากผู้ให้บริการประกันภัยของผมในสหรัฐอเมริกา น่าเสียดายที่บางรายการก็ไม่สามารถคืนเงินได้ หลังจากการเจ็บป่วยที่ร้ายแรงและมีราคาแพงจนมันกลายเป็นภาระทางการเงินมากเกินไปสำหรับผมจนผมต้องเลือกที่จะกลับไปบ้านเกิดเพื่อรับการรักษาพยาบาลฟรี
ผมยังคงกลับไปเยี่ยมประเทศไทยทุกปี และหวังว่าจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตที่ไทยได้ยาวนานมากกว่านี้
Thom Allison