เวรกรรมสมัยนี้ มาเร็ว เคลมเร็ว กว่าอินเทอร์เน็ต 5G เสียอีก เมื่อหนุ่มขับรถปาเจโร่หัวร้อนเอาด้ามปืนทุบหัวป้าเลือดอาบกลางถนน ท่ามกลางสายตาประชาชี ถูกตำรวจรวบตัวดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วเมื่อวานนี้ (15 สิงหาคม 2564)
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเกิดบริเวณตรงข้ามตลาดนำชัย เขตลาดกระบัง เมื่อวันศุกร์เย็นวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา หลังมีคนบันทึกเหตุการณ์ชายขับรถมิซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน 8 กส-3242 กทม. ใช้อาวุธปืนทุบกระจกมองข้างรถและศีรษะของหญิงวัยกลางคนจนเลือดอาบ ก่อนที่หนุ่มคนดังกล่าวจะขึ้นรถขับหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำหญิงไปรักษา โดยแพทย์ต้องเย็บแผลกว่า 10 เข็ม
ล่าสุดตำรวจสามารถรวบตัวหนุ่มคนดังกล่าวได้ทันที หลังศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ชื่อ “นายเสฏฐวุฒิ ผาดีอุ่น” อายุ 36 ปี ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สน. ลาดกระบัง ในข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายโดยมีและใช้อาวุธ และทำให้เสียทรัพย์” เมื่อวานนี้ (15 สิงหาคม 2564)

มือตบ – ตำรวจชุดสืบสวนบก.น. 3 และสน. ลาดกระบัง ตามจับนายเสฏฐวุฒิ ผาดีอุ่น คนขับรถปาเจโร่ ได้ที่บ้าน อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ หลังทำร้ายคู่กรณีผู้หญิงจนบาดเจ็บศีรษะแตก เป็นคลิปดังในโลกโซเชียล
ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 16:00 น. จากการสอบสวนนายเสฏฐวุฒิ ผู้ต้องหาที่สน. ลาดกระบัง เขาได้สารภาพว่า สาเหตุที่ก่อเหตุรุนแรงในวันนั้น เกิดจากพยายามจะแซงคู่กรณี ทราบชื่อภายหลังคือ “นางสุรางค์ สินแก้ว” อายุ 49 ปี คนขับแกร็บคาร์ เพื่อเข้าเลนใน แต่แซงไม่ได้ ขณะที่ลงจากรถมาพบนางสุรางค์ จะไม่ลงมือใช้กำลังอะไร แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมเลิกรา พยายามกระชากเสื้อ ทั้งที่เขาได้บอกกับคู่กรณีว่าพอแล้ว ให้ปล่อยเขาไปเถอะ แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยอีก จึงบันดาลโทสะ ใช้ปืน BBGUN ที่ถือตีไปที่ศีรษะ 2-3 ครั้ง ส่วนที่ต้องพกอาวุธปืนลงไปนั้น เพราะเห็นว่ามีคนเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เกรงว่าจะถูกรุมทำร้าย เลยถือลงไปเพื่อป้องกันคนรอบข้าง ไม่ได้คิดว่าจะเอามาทำร้ายคู่กรณี ประกอบกับนายเสฏฐวุฒิ เกิดความเครียด จากปัญหาธุรกิจส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม นายเสฏฐวุฒิ ได้ขอโทษคู่กรณีและยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเบื้องต้นพนักสอบสวนได้แจ้งข้อหาตามหมายจับ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ที่มาข้อมูล ไทยรัฐและข่าวสด