กลายเป็นดราม่าขึ้นมาในกลุ่มแฟนละครเลยทีเดียว หลังละคร “พรชีวัน” ละครชุดสุดท้ายในซีรีส์ “ดวงใจเทวพรหม” และเรื่องราวระหว่างตระกูลจุฑาเทพและเทวพรหมได้ลาจอไป เนื่องจากบทของละครพรชีวันที่แฟนละครและแฟนนิยายหลายคนต่างรับไม่ได้ที่มีการปรับเปลี่ยนบทในละครจนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงของนวนิยายต้นฉบับ
จนทำเอาแฮชแท็ก #พรชีวันตอนจบ พุ่งติดเทรนด์บน X โดยมีแฟนละครมากมายเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับละครชุดดังกล่าว อาทิ “เป็นบทละครที่อิหยังวะที่สุดในโลก”, “จบแบบงง บทแบบนี้คืออะไร”, “ตอนดูแรก ๆ ก็งง ว่าละครมันชื่อพรชีวันหรือพรชีวา”, “ในฐานะแฟนนิยาย ผิดหวังมาก มีอีกหลายฉากที่ควรใส่มา พี่ตัดออกทำไมค้า?” และ “บทบ้งมาก ชีวันแทบจะจืดจาง” เป็นต้น
จาล่าสุดทางด้านคุณ “บ๊วย-นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์” ผู้เขียนบทละครเรื่องดังกล่าวจึงได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยระบุว่า “#พรชีวัน ข้าพเจ้าเป็นนักเขียนบท ที่มีจำนวนคนด่ามากที่สุดคนหนึ่ง สมัยก่อนเป็นขวัญใจพันทิป ตอนนี้ ต้องเรียกว่า ตัวตึงทุกแพลตฟอร์ม พรชีวัน ช่วงท้าย นี่ถ้าเทรนด์ X โลกขึ้นได้ ขอเคลมว่าด่าบทไป 80%”
“ถึงชาวบ้านฟ้าและคนดูละครพรชีวัน อ่านคอมเมนต์เสมอ ขออภัยและเสียใจอย่างมากที่ทำให้ผิดหวัง ขอให้เชื่อนะว่าเข้าใจจริง ๆ เพราะ ข้าพเจ้าเป็นคนดูละครสายโรแมนติก (เน้นฉากฟินจิ้น เกลียดฉากอุปสรรค) และสาย Idealistic (บุคลิกของสุภาพบุรุษจุฑาเทพที่ดีงามสมบูรณ์แบบ แบบมีรักแรกและรักเดียวคือนางเอก ไม่ควรผ่านมือแฟนเก่าคนไหน”
“ข้าพเจ้าชอบฉากฟินจิ้น กดข้ามฉากดราม่า เหมือนคนดูหนัง Genre นี้ทั่วไป แต่ที่ไม่ได้เลือกวิธีนี้แบบโรแมนติก 100 % ในการนำเสนอ มีเหตุผลจากการประทับใจส่วนของนวนิยาย คือพรชีวา พรชีวา นางเอกที่ท้องก่อนแต่ง และยังได้คู่ เป็นจุฑาเทพ! เป็นความชาญฉลาดของ #ร่มแก้ว เจ้าของบทประพันธ์พรชีวาที่เป็นเสมือนด้านมืดของชีวัน และยังแอบซ่อนชื่อตัวนี้ไว้ในชื่อเรื่องอีกด้วย”
“คน: ไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ มีช่วงเวลาที่ทำผิดพลาด แต่เดินผ่านมาได้ด้วยความอดทน และเลือกกลับมาสู่ชีวิตในด้านดีงามทุกครั้ง ประโยคนี้ได้กลายเป็น Theme กลายเป็นฉาก ข้อถกเถียงมากมายที่อยู่ใน EP ต่าง ๆ เช่น สรุจเมาด่าคน/ห้าลิงด่าคน/สรุจกับแฟนเก่า/ชีวันทำผิดแบบเด็ก ๆ และ EP ท้าย ๆ ดราม่ากลุ่มพรชีวาทั้งหมด”
“การเลือกแบบนี้ พาคนส่วนหนึ่งผิดหวัง ขออภัยนะ ได้แต่หวังว่า เมื่อกลับมาดูสรุจและชีวัน ในรอบรีรัน ท่านจะเปิดใจในอีกมุมมองหนึ่ง สรุจและชีวัน ได้ผ่านด่านการทดสอบจิตใจอย่างหนักหน่วงที่สุด ชีวันที่เกิดมาแล้วไม่เคยอกหักเลย และแต่งงานทันทีที่เรียนจบ จะไม่ลังเลสงสัยกับการเลือกครั้งนี้ สรุจเมื่อต้องเจอคนรักเก่าทุกครั้ง เขาจะมั่นคงที่ชีวันคนเดียว นี่คือวิธีการส่งตัวละครกลับสู่นิยาย ของข้าพเจ้าและทีมบท”
“ท้ายที่สุด อยากจะบอกทีม #ch33 และทีมจากผู้จัดทั้งห้า #ดวงใจเทวพรหม ว่าดีใจมากๆ ที่ได้อยู่ร่วมโปรเจ็กต์นี้ ทั้งสองเวอร์ชั่น/ขอบคุณ ส้ม ปลา ดาว ทีมบทพรชีวัน/ทีมบทอีกสี่เรื่อง/กราบขอบคุณพี่สมรักษ์และพี่คิง เป็นพิเศษ อยากย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้เพิกเฉยต่อคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่จริงแล้วทีมหลังบ้านได้ข้อคิดดี ๆ เอามาถกกันเป็นชั่วโมง เกือบทุกวัน ช่วยพัฒนาในการเขียนบทของข้าพเจ้าในอนาคตอย่างมาก”
โดยหลังจากที่เจ้าตัวโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป โพสต์นี้ก็กลายเป็นไวรัลที่ถูกแชร์มากกว่า 1.3 พันครั้ง มีชาวเน็ตที่เข้ามาให้กำลังใจ แต่ก็ยังมีแฟนละครจำนวนไม่น้อยที่ยังคงไม่พอใจกับบทในละครพรชีวัน และแสดงความคิดเห็นกันมากมายทั้งใต้โพสต์ดังกล่าวและบนแพลตฟอร์ม X อาทิ
“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะว่าผู้เขียนชอบนางรองในหนังสือเลยเขียนให้เป็นนางเอกเหรอคะ?”, “เหตุผลที่ทำให้สรุจกลายเป็นจุฑาเทพทึ่โลเล งี่เง่า คืออะไร”, “ใส่อุปสรรคเยอะเกินเบอร์ถึงตอนสุดท้าย ทำคนดูห่อเหี่ยวค่ะ”, “ถ้าเรื่องพรชีวา จะดีมากเลยค่ะส่งเสริมทุกอย่างบทเด่นมาก แต่คุณสรุจนี่ถ้าดูจากพฤติกรรมมันน่าจะห่างไกลคำว่าสุภาพบุรุษอยู่นะคะ”, “อยากให้คุณนักเขียนเคารพในตัวนิยายตั้งต้นที่นำมาทำบทละครนะคะ จากใจนักอ่านตัวยง” และ “คุณบ๊วยคะ สรุจคือพระเอก ชีวันคือนางเอกนะคะ ชื่อเรื่อง “พรชีวัน” ค่ะ” เป็นต้น
ที่มาข้อมูล: Facebook Buay Nuntawan, #พรชีวันตอนจบ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ส่อง 10 นักแสดงผู้รับบท “รุ่นพ่อ-แม่” ใน “ดวงใจเทวพรหม” ละครชุดภาคต่อจากสุภาพบุรุษจุฑาเทพ!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เปิดตัวนักแสดงละคร “ดวงใจเทวพรหม” ภาคต่อรุ่นลูก “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: มาแรงแซงทุกโค้ง! “มาตาลดา” ขึ้นแท่นซีรีส์มาแรงอันดับ 1 บน Netflix ประเทศไทย แซงหน้าซีรีส์ต่างชาติ!