ชาวเน็ตเดือด! คนตาบอดตีหมานำทางตัวเอง เพราะน้องมองว่าบันไดเป็นอุปสรรค เลยไม่ยอมพาเจ้าของเดินขึ้นเขา

seehui
เมื่อเร็ว ๆ นี้ โลกออนไลน์ของจีนมีประเด็นดราม่าที่ชาวเน็ต โดยเฉพาะคนรักสัตว์ ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของหญิงสาวตาบอดรายหนึ่ง พาสุนัขนำทางชื่อ “เฟนดิ (Fendi)” ไต่เขาไท่ซานท่ามกลางฝนที่ตกหนักในช่วงกลางคืน โดยในคลิปจะเห็นว่า “เฟนดิ” ซึ่งเป็นสุนัขนำทางสายพันธุ์ลาบราดอร์ สีครีมนวล ไม่สวมเสื้อกันฝน กำลังนำทางผู้พิการทางสายตาสองคนขึ้นบันไดบนเขาอย่างยากลำบาก

Ettoday
ขณะเดิน “เฟนดิ” อยู่ดี ๆ ก็หยุดและพยายามขวางทางคนตาบอดทั้งสองคนไม่ให้เดินต่อไปข้างหน้า เพราะน้อง “มองว่าบันไดเป็นอุปสรรค” ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมตามสัญชาตญาณของสุนัขนำทางมืออาชีพ แต่กลับถูกเจ้าของใช้ไม้เท้าขาวเคาะเพื่อให้หลบทาง สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตจำนวนมาก จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงเรื่องการใช้งานและดูแลสุนัขนำทางอย่างเหมาะสม

Ettoday
หลังคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว “ศูนย์ฝึกสุนัขนำทางเมืองต้าเหลียน” ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ “เฟนดิ” ได้ออกแถลงการณ์ผ่านบัญชีทางการ ประกาศ “พักการใช้งาน “เฟนดิ” ชั่วคราว” และจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัวกลับจากสถานที่ปฏิบัติงานทันที เพื่อประเมินสภาพจิตใจและร่างกาย
ขณะที่ “หวังอิ๋งอิ๋ง” หนึ่งในผู้พิการทางสายตา ซึ่งเป็นเจ้าของของ “เฟนดิ” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่าเธอมีความตั้งใจจะใช้ชีวิตนอกบ้านให้มากขึ้น แม้จะเป็นคนตาบอดา โดยกล่าวว่า “ถึงฉันจะมองไม่เห็น แต่ฉันก็อยากไปเห็นโลก ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่แต่บนเตียงนวดไปตลอดชีวิต”
จากนั้นเธออธิบายต่อว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอพา “เฟนดิ” ออกทริปไกล และเตรียมการมาอย่างดี โดยแบกเป้หนักกว่า 40 กิโลกรัม ที่บรรจุทั้งของใช้ส่วนตัวและของใช้สำหรับสุนัขนำทาง เช่น ผ้าปูรองนอน, ผ้าเช็ดตัว, ผ้าเช็ดอุ้งเท้า, ขนมขบเคี้ยว, ชามน้ำพับได้ และถุงนอนเฉพาะของสุนัข
เธอยังเล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยพา “เฟนดิ” ขึ้นกำแพงเมืองจีนมาแล้ว และโพสต์ไว้ในบัญชีโซเชียลชื่อ “导盲犬芬迪” โดยเขียนแคปชั่นว่า “ยังไม่พอสำหรับความท้าทาย หวังว่าสักวันจะได้ขึ้นถึงยอดเขาไท่ซานด้วยกัน” ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นการทำตามเป้าหมายนั้น

Sohu/ภาพประกอบบทความ: สุนัขนำทางผู้พิการทางสายตา
ด้านผู้เชี่ยวชาญในวงการสุนัขนำทางจากศูนย์ฝึกต่าง ๆ ระบุว่า สุนัขนำทางต้องผ่านการฝึกหลายขั้นตอน โดยรวมกว่า 70 หัวข้อ เช่น การนำทางหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ข้ามถนน เดินขึ้นลงบันได และอีกเยอะแยะมากมาย และมีค่าใช้จ่ายในการฝึกสุนัขหนึ่งตัวสูงถึง 200,000 หยวน หรือราว 1 ล้านบาท และใช้เวลาฝึกนานกว่า 2 ปี ดังนั้น การใช้งานผิดประเภทจึงเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อสังคมมาก
แม้ต่างประเทศจะมีกรณีผู้พิการพาสุนัขนำทางวิ่งมาราธอนหรือร่วมกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ต้องผ่านการประเมินอย่างละเอียด ไม่ใช่เพียงความต้องการส่วนตัว และสุนัขนำทางอาจเกิดอาการบาดเจ็บจากการไต่เขาหรือเดินบันไดหลายพันขั้นติดต่อกัน โดยเฉพาะหากไม่มีเวลาพัก หรือมีฝนตก ลื่นไถล ขาหลัง และสะโพกอาจได้รับผลกระทบโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พิการทางสายตาอาจไม่สามารถสังเกตเห็นอาการผิดปกติ เช่น อุ้งเท้าถลอก, ขาถูกกระแทก หรืออาการอ่อนแรงของสุนัข ซึ่งจะทำให้การดูแลไม่ทันต่อเหตุการณ์ เรื่องนี้จึงทำให้ทุกคนรู้ว่า บางครั้ง… ความรักไม่ใช่การพาเขาไปทุกที่ แต่คือการรู้ว่า “ที่ไหน” คือที่ที่เขาควรอยู่

36kr/ภาพประกอบบทความ: สุนัขนำทางผู้พิการทางสายตา
จากข้อมูลของสมาคมคนตาบอดจีนระบุว่า ปัจจุบันมีผู้พิการทางสายตาในจีนมากถึง 17.3 ล้านคน แต่มีสุนัขนำทางเพียงประมาณ 400 ตัวเท่านั้น ซึ่งห่างไกลจากมาตรฐานสากลที่แนะนำให้มีสุนัขนำทางอย่างน้อย 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้พิการสายตา
ที่มาข้อมูล: cqnews.net
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: ศาลจีนสั่งปรับวัยรุ่นฉี่ใส่หม้อไฟ “ไหตี่เหลา” กว่า 11 ล้านบาท พร้อมให้พ่อแม่ร่วมรับผิดชอบ
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: สาวจีนขอหนุ่ม 20 คน ซื้อ “iPhone” ก่อนนำไปขายต่อ เพื่อเอาเงินไปดาวน์บ้าน
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: มาเดตหรือมางานรวมญาติ? สาวจีนถูกหนุ่มเทให้จ่ายค่าข้าวหลักแสน หลังพาญาติ 23 คน มากินข้าวด้วยกัน เพื่อลองใจความใจกว้าง