ประเด็น “หนุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานโดนไล่ออก หลังร่วมคาร์ม็อบไล่นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา” ที่กลายเป็นดราม่าบนโลกออนไลน์ข้ามวันข้ามคืน จบลงด้วยดีแล้ว!
หลัง “นายสถาพร ลิ้มมณีวิจิตร” หัวหน้าศูนย์กู้ภัย “มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน” พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิฯ ในจังหวัดอุดรธานี กับ “นายราชา แซ่เต็ง” อาสาสมัครกู้ภัยที่โดนปลด ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง “กรณีมูลนิธิเมธาฯ ปลดอาสาสมัครกู้ภัย หลังร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบ ชู 3 นิ้วไล่นายกฯ ” เมื่อวานนี้ (3 สิงหาคม 2564)
“นายสถาพร ลิ้มมณีวิจิตร” หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน กล่าวว่า การปลดเกิดขึ้น เพราะอาสาสมัครไม่รู้และไม่ได้ศึกษากฎระเบียบของมูลนิธิเมธาฯ ให้ดีเสียก่อน เพราะทางมูลนิธิเมธาฯ ประกาศชัดเจนว่า วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ เรา คือ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ และช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น การที่หนุ่มอาสาสมัครกู้ภัยของเราไปร่วมทำกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ นั้น การทำกิจกรรมนี้ ทางมูลนิธิเมธาฯ ไม่ได้ปิดกั้น ให้สิทธิเสรีภาพในการที่จะเสนอความคิดเห็น “แต่อย่าใช้สัญลักษณ์ขององค์กร” เข้าไปร่วมทำกิจกรรมรณรงค์ เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า มูลนิธิเมธาฯ ทำไมต้องไปสนับสนุนคนนั้นคนนี้จริง ๆ
และวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีกิจกรรมคาร์ม็อบ ทาง “มูลนิธิเมธาฯ” มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเข้าเวรรอ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ทุกท่านมีการพูดคุยกันตลอดเวลาว่า หากมีการร้องขอหรือมีอุบัติเหตุจากการทำกิจกรรมรณรงค์จะเข้าไปช่วยทุกคน แต่อาสาที่เราสั่งปลดไป ตรวจสอบแล้วก็พบว่า ได้ทำให้เกิดความเสื่อมเสียและเป็นการทำผิดระเบียบของมูลนิธิเมธาฯ จริง คณะกรรมการจึงมีมติสั่งปลด
ด้าน “นายราชา แซ่เต็ง” อาสาสมัครมูลนิธิเมธาฯ ที่ถูกปลด เผยว่า “ทางมูลนิธิเมธาฯ” ไม่ได้เอาเรื่องตนแต่อย่างใด และยอมรับว่าตัวเองทำผิดด้วยการละเมิดกฎระเบียบของมูลนิธิเมธาฯ จริง พร้อมทั้งบอกว่า การเข้าร่วมทำกิจกรรมคาร์ม็อบ เป็นเรื่องส่วนตัว พร้อมทั้งชี้แจงด้วยว่า วันที่ร่วมกิจกรรม ไม่ได้เข้าไปอยู่ในขบวนคาร์ม็อบ สมมุติขบวนใกล้ถึงแยกข้าง ก็เข้าไปอยู่หน้าขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนภาพที่เห็นออกไปชู 3 นิ้วไม่จริงผมชู 2 นิ้ว ทั้งนี้ “นายราชา” ได้มีการประสานสื่อมวลชนขอให้ลบข่าวออกไปแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวหลาย ๆ คนก็ให้ความร่วมมือ แต่ขอฝากประชาชนอย่าไปต่อว่าทางมูลนิธิเมธาฯ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มูลนิธิเมธาฯ ปลดอาสาสมัครมา ก่อนหน้านี้ก็มีปลดมาแล้วหลายคน เนื่องจากทำผิดกฎและระเบียบ อาสากู้ภัยที่ถูกปลดไป บางคนก็ได้กลับมาทำงานเป็นอาสากู้ภัยต่อ การลงโทษเช่นนี้มีขึ้น เพราะอาสาสมัครมูลนิธิเมธาฯ มีจำนวนมาก หากไม่ลงโทษ จะควบคุมคนทำงานไม่ได้ การปลดไม่ได้ปลดแบบร้ายแรง หากเขาปฏิบัติตนได้ดีสักพัก คณะกรรมการจะมีมติให้กลับมาทำงานเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิเมธาฯ ได้เช่นเดิม
ที่มาข้อมูล สยามรัฐ