ตำรวจสืบทราบภายหลังว่า วัตถุที่นำมาผสมกับกาแฟนั้น คือ “ยาอี (Ecstasy)” ซึ่งมีการซื้อขายกันราคาสูงถึง ซองละ 3,000 บาท มีฤทธิ์ที่รุนแรงกว่า 10 เท่า และมีอันตรายถึงชีวิต
โดย “ยาอี” จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 หากผู้ใดมีไว้จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อาจได้รับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
ตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าหลงซื้อกาแฟลักษณะดังกล่าว และหากพบเห็นการซื้อ-ขายสารเสพติดต่าง ๆ (รวมถึง “ยาอี” นี้ด้วย) สามารถแจ้งเบาะแสข้อมูลมาได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจสอบสวนกลาง”
ขณะที่ “นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา” ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวว่า “ยาอี” จะเข้าไปทำลายระบบประสาท ทำให้เซลล์สมองส่วนที่ทำหน้าที่หลั่งสารซีโรโทนิน (Serotonin) ส่งผลให้สดชื่น อารมณ์ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารดังกล่าวจะลดน้อยลง ทำให้ผู้เสพเข้าสู่สภาวะอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ เกิดอาการซึมเศร้า และอาจกลายเป็นโรคจิตประเภทซึมเศร้า (Depression) มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติ
นอกจากนี้ ยังทำให้การนอนหลับผิดปกติ เวลาการนอนลดลง หลับไม่สนิท อ่อนเพลียขาดสมาธิในการเรียนและทำงาน บางรายนิยมเสพพร้อมกับดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยาชนิดอื่นร่วมด้วย อาจทำให้เกิดอาการช็อกและเสียชีวิตได้
ข่าว “กาแฟผสมยาอี” กลายเป็นไวรัลบนโซเชียล หลังจากมีวัยรุ่นไทยใช้บัญชีติ๊กต็อกรายหนึ่งได้โพสต์คลิปให้เห็นซองกาแฟสำเร็จรูป เมื่อเทออกมา พบว่า ผงในซองนั้นกลับมีลักษณะเป็นผงสีเหลืองผสมอยู่ หลังจากนั้นจะมีภาพวัยรุ่นกลุ่มนี้อยู่ในปาร์ตี้ที่แต่ละคนมีอาการมึนเมา และในคลิปนี้ก็ชี้ว่า “กาแฟที่เห็นนั้นมียาอีผสมอยู่ และมีราคาขายอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท”
ล่าสุดตำรวจสืบทราบแล้วว่า “ใคร” คือคนโพสต์คลิป “กาแฟผสมยาอี” ที่เป็นไวรัลบนโลกออนไลน์แล้ว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: พ่อโพสต์เตือนภัย! ลูกสาว ม. 2 หวิดดับ หลังกินยาเสียสาว สั่งออนไลน์ ผสมนํ้าอัดลม
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ระวัง! คุณแม่แชร์ภาพลูกสาวเลือดออกตาจนต้องผ่าตัด เพราะจ้องมือถือนาน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: ระวัง! ชาวเน็ตแฉเจอร้านขายต้นไม้ออนไลน์หลอกขาย “ต้นบอนสี” พิมพ์รูปแปะ