ย่าน “เจริญกรุง” และ “บางรัก” ถือเป็นย่านชุมชนสำคัญอันเก่าแก่ ที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ด้วยเอกลักษณ์และกลิ่นอายเฉพาะตัว ทำให้ในปัจจุบัน เจริญกรุงและบางรัก กลายเป็นสถานที่สุดชิค ฮิป และคูล แล้ว Lifestyle ริมน้ำสุดเก๋ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสุดยูนีค ทั้งแกลลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ศาสนสถาน ผลงานสตรีทอาร์ต และคาเฟ่หลากหลายสไตล์
แต่อีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญ และสามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชนและผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านเจริญกรุงและบางรัก คงหนีไม่พ้น “อาหารการกิน” อย่างที่มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “อาหารเล่าขานวัฒนธรรม” บอกเลยว่าย่านนี้มีร้านอาหารที่โด่งดังจนเป็น “ตำนาน” อยู่เยอะมาก ใครที่เป็นสายกินตัวจริง ต้องตามไปเช็คอินให้ครบ จะมีร้านไหนบ้าง ไปดูกันเลย!
1. ตวง ติ่มซำ ร้านติ่มซำยอดฮิต โดยอดีตเชฟชื่อดังระดับห้าดาว!
ประเดิมร้านแรกกันด้วยร้านติ่มซำเจ้าดังบนถนนเจริญกรุงอย่างร้านตวง ติ่มซำ ที่เป็นตำนานจนลูกค้าต้องตื่นมาต่อคิวแต่เช้าเพื่อรอสั่งซื้อ ขอบอกเลยว่าไม่เกินจริง เพราะขนาดพี่เราอยู่สุขุมวิท ยังต้องตื่นแต่เช้า เพื่อขับรถมานั่งรอคิวหน้าร้านเหมือนกัน จึ้งไหมล่ะ? จึ้ง!
โดยเมนูก็มีให้เลือกเพียบราคาไม่แรง แถมรสชาติคือที่สุด! เมนูโปรดที่เราอยากแนะนำต้องเป็นเสี่ยวหลงเปา, ซาลาเปาไข่เค็มลาวา และขนมจีบกุ้ง การันตีความอร่อยด้วยเชฟใหญ่ผู้รังสรรค์เมนูต่าง ๆ อย่าง “เชฟยิป” อดีตเชฟจากห้องอาหาร Shang Palace ในโรงแรมแชงกรีล่าฯ ผู้เป็นชาวฮ่องกงแท้ ๆ ใครอยากชิมติ่มซำในราคาบ้าน ๆ แต่คุณภาพระดับ 5 ดาว ต้องมาลองเอง!
ที่อยู่: 2029/9 ถนน เจริญกรุง กรุงเทพฯ (อยู่ระหว่างซอยเจริญกรุง 77 กับ เจริญกรุง 79 แยก 1)
เวลาทำการ: 07:00-16:00 น. ทุกวัน (ปิดวันจันทร์)
ช่องทางการสั่งซื้อ: Grab Food และ LINEMAN
หมายเลขโทรศัพท์: 089-603-0908
2. ข้าวต้มปลา กิมโป้ ปลาเลิศเนื้อแน่น เก๋าจริงกว่า 70 ปี
ตำนานข้าวต้มแสนอร่อย ที่ชาวเจริญกรุงน้อยคนนักจะไม่รู้จัก ต้องยกให้ร้านข้าวต้มปลา กิมโป้ ร้านเปิดมาตั้งแต่รุ่นอากงของเจ้าของร้านคนปัจจุบัน เมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว โดยนี่ถือเป็นการส่งต่อสูตรลับความอร่อยมาเป็นรุ่นที่ 3
ที่เด็ดสุด ๆ คือทางร้านใช้เนื้อปลาคุณภาพคัดสรรวันต่อวันจากสะพานปลา โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน เนื้อปลาต้องสด มีน้ำหนักได้ตามมาตรฐาน ทั้งปลาเก๋า, ปลากระพง และปลาเต๋าเต้ย น้ำซุปกลมกล่อมเพราะใช้กระดูกปลาเคี่ยวน้ำซุปนานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ไม่มีคาวเลยสักนิด! เมนูแนะนำต้องข้าวต้มปลากระพงและข้าวต้มปลาเก๋ กินกับน้ำจิ้มแซ่บ ๆ อาโหร่ยยย
ที่อยู่: แยกถนนจันทร์ ตรงข้ามโรงแรม Chatrium Hotels & Residences
เวลาทำการ: 15:30-22:00 น. ทุกวัน
ช่องทางการสั่งซื้อ: Grab Food และ LINEMAN
หมายเลขโทรศัพท์: 061-789-4665
3. หมูกระทะ เฮงเฮงเฮง ยืนหนึ่งย่านเจริญกรุง
สะพานแดงเขามีจ่าอู ห้วยขวางมีคุณเปิ้ล ฝั่งธนก็มีตุ้ยหมูกระทะ แต่ชาวเจริญกรุงเรามี หมูกระทะ เฮงเฮงเฮง หมูกระทะยืนหนึ่งมงลงเพาะคนต่อคิวยาวจนต้องโทรมาจองก่อน มีเก้าอี้วางเรียงรายเพื่อบริการลูกค้าที่มารอคิว ที่เคยรอนานสุดประมาณ 2 ชั่วโมงถึงจะได้กิน แต่การรอมันคุ้มค่ามาก!
ทีเด็ดของเขาอยู่ที่น้ำหมักหมู ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป เวลากินต้องเทน้ำหมักหมูลงไปผสมกับน้ำซุป รับรองว่าน้ำซุปจะเข้มข้น แถมมีไข ๆ ของไข่ที่เราผสมลงไปลอยขึ้นมาให้ทานเล่น อร่อยสุด ๆ แต่นอกจากหมูกระทะแล้ว อีกหนึ่งเมนูเด็ดที่บังคับสั่ง ไม่สั่งไม่ได้คือ เกี๊ยวกุ้งกรอบ ทอดใหม่ร้อน ๆ เสิร์ฟจานต่อจาน ถ้าได้กินรับรองว่าฟินจนต้องสั่งจานต่อไปแน่นอน
ที่อยู่: แยกถนนจันทร์ ตรงข้ามโรงแรม Chatrium Hotels & Residences
เวลาทำการ: 18:00-24:00 น. ทุกวัน
ช่องทางการสั่งซื้อ: สั่งผ่านหมายเลขโทรศัพท์
หมายเลขโทรศัพท์: 02-675-0344
4. ก๋วยจั๊บมิสเตอร์โจ หมูกรอบที่ต้องกินก่อนตาย!
เยื้อง ๆ ไปจากถนนเจริญกรุง หากมุ่งหน้าไปยังถนนจันทร์ คุณจะได้พับกบ เอ้ย! พบกับ ร้านก๋วยจั๊บเจ้าดัง ซึ่งมีเอกลักษณ์คือมีคนมุงหน้าร้านเพียบทุกวัน! ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานส่งอาหารนั่นแหละ เพราะร้านนี้เขาเด็ดจริง ๆ คิดออกรึยังว่าร้านไหน ใช่แล้ว “ก๋วยจั๊บมิสเตอร์โจ” นั่นเอง!
ทีเด็ดของเขาเลยคือ “หมูกรอบ” หนังหมูกรุบกรอบสะใจ ติดเนื้อ แทรกชั้นไขมันหนานุ่ม สั่งแยกมากินคู่กันกับก๋วยจั๊บร้อน ๆ หรือข้าวสวย รับรองว่าฟิน รับประกันความอาโหร่ยยยย ด้วยการติดโผ “มิชลิน บิบ กูร์มองด์” ประจำปีนี้ด้วย แอบกระซิบว่านอกจากหมูกรอบแล้ว ซาลาเปาไส้ครีมและขนมจีบกุ้งก็อร่อยมาก!
ที่อยู่: ตั้งอยู่ระหว่างซอยจันทน์ 42 กับซอยจันทน์ 44
เวลาทำการ: 08:00-16:30 น. ทุกวัน
ช่องทางการสั่งซื้อ: Grab Food, LINEMAN, Foodpanda และ Robinhood
หมายเลขโทรศัพท์: 02-213-3007
5. โจ๊กปริ๊นซ์ กลิ่นไหม้ก้นหม้อที่เป็นเอกลักษณ์
สารภาพมาซะดี ๆ ชาวเจริญกรุงคนไหนโตมากับ “โจ๊กปริ๊นซ์” บ้าง? กินตั้งแต่เด็กจนโต ถ้ายังไม่เคยกิน ถือว่ามาไม่ถึงบางรัก! โจ๊กปริ๊นซ์ บางรัก ถือเป็นอีกตำนานความอร่อย กับโจ๊กสไตล์กวางตุ้งแท้ ๆ เปิดขายมานานกว่า 60 ปี ส่งต่อความอร่อยตั้งแต่รุ่นแม่ยันรุ่นลูก
ชื่อโจ๊กปริ๊นซ์มาจากการที่แต่ก่อนร้านตั้งอยู่ในตรอกเล็ก ๆ หน้าโรงหนังปริ๊นซ์ โดยสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโจ๊กปริ๊นซ์ที่หาที่ร้านอื่นไม่ได้ คือกลิ่นไหม้ก้นหม้อที่หอมได้ฟีลสุด ๆ กินแล้วรู้เลยนี่คือโจ๊กปริ๊นซ์ แถมหมูสับยังปรุงรสได้เข้มข้น ชิ้นโต กัดเข้าไปแล้วนุ่มเด้ง จนอยากเบิ้ลอีกชาม ได้รับความนิยมสุด ๆ จนจากตอนแรกเป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ ตั้งขายนตรอก ปัจจุบันเขามีหน้าร้านเป็นของตัวเองแล้ว ใครอยากไปชิมรีบไปเลย แอบป้ายยาว่าแม่ค้าสวยเด้อ!
ที่อยู่: อยู่ตรงข้ามกับโรบันสันบางรัก ตรงมาประมาณ 200 เมตร สังเกตป้ายร้านได้ทางขวามือ
เวลาทำการ: 06:00-12:00 น. (รอบเช้า) และ 16:30-23:00 น. (รอบเย็น) ทุกวัน
ช่องทางการสั่งซื้อ: Grab Food, LINEMAN, Foodpanda และ Robinhood
หมายเลขโทรศัพท์: 089-795-2629 และ 089-967-3296
6. ประจักษ์เป็ดย่าง ตำนานความอร่อยกว่า 100 ปี
อีกหนึ่งร้านอาหารที่เชิดหน้าชูตาให้กับชาวบางรักมาเป็นระยะเวลาหลายชั่วอายุคน คงหนีไม่พ้น “ประจักษ์เป็ดย่าง” กินกันตั้งแต่รุ่นอากงอาม่า ลามมายันเด็กนักเรียน เพราะเขาเปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปีแล้ว ปัจจุบันส่งต่อความอร่อยกันมาถึงรุ่นที่ 4!
สิ่งที่ทำให้ลูกค้าติดใจ คือเนื้อเป็ดชิ้นหนานุ่ม ติดกับหนังเป็ดกรอบ ๆ คลุกเคล้าด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ นอกจากนี้อีกเมนุเด้ดคือหมูกรอบชิ้นหนา ชั้นเนื้อสลับกับมัน แต่ทังหมดทั้งมวลต้องยกความดีความชอบด้วยซอสสูตรพิเศษ ราดลงไปทำให้ทั้งเนื้อเป็ดและเนื้อหมูหวานฉ่ำมากยิ่งขึ้น มงลงแล้ววว!
ที่อยู่: อยู่ตรงข้ามกับโรบันสันบางรัก สังเกตป้ายชื่อร้านทางขวามือ
เวลาทำการ: 08:00-18:30 น.
ช่องทางการสั่งซื้อ: Grab Food, LINEMAN, Foodpanda และ Robinhood
หมายเลขโทรศัพท์: 02-234-3755
7. ขาหมูเจริญแสงสีลม เจ้าของรางวัลมิชลิน!
ต้องนั่งยัน นอนยัน ยืนยัน ว่านี่คือขาหมูที่อร่อยที่สุดในชีวิต! กับร้านขาหมูเจริญแสงสีลม ซอยตรงข้ามโรงพยาบาลเลิดสิน ถึงแม้จะน่าใจหายเมื่อมีข่าวว่า “เฮียตึ๋ง” เจ้าของร้าน ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ใครที่ผ่านไปแถวนั้น ก็ยังสามารถอุดหนุนทางร้านได้เหมือนเดิม และแน่นอนว่าความอร่อยก็ยังคงเดิมเช่นกัน
น้ำพะโล้มีความเข้มข้น ซึมเข้าไปในเนื้อขาหมูแน่น ๆ และหนังหมูนุ่มเด้งอร่อยละลายในปากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน กินกับข้าวสวยราดน้ำพะโล้พอขลุกขลิก บอกเลยว่าเข้ากันได้ดี ไม่มีเลี่ยน!
ที่อยู่: ซอยเจริญกรุง 49 ซอยตรงข้ามโรงพยาบาลเลิดสิน
เวลาทำการ: 07:30-13:00 น.
ช่องทางการสั่งซื้อ: LINEMAN
หมายเลขโทรศัพท์: 02-234-4602 และ 02-234-8036
8. แดงราชาหอยทอด หอยทอดที่เคยออกรายการ Masterchef Thailand มาแล้ว
หนึ่งในตำนานหอยทอดเจ้าดังในประเทศไทย จะไม่มีร้านแดงราชาหอยทอด ไม่ได้ เพราะเขาสืบทอดความอร่อยกันมากว่า 100 ปี ปัจจุบันก็ถือเป็นรุ่นที่ 4 เข้าไปแล้ว
ทางร้านให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบเป้นอย่างมาก โดยเฉพาะหอยแมลงภู่และหอยนางรม ที่จะคัดเฉพาะหอยที่สด ตัวใหญ่เบิ้ม ๆ และมีคุณภาพแน่น ๆ นอกจากนี้รสชาติของแป้งที่ใช้ทำหอยทอดก็อร่อย เป็นสูตรลับที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เวลาทอดจะมีความกรอบนอกนุ่มใน หอยยังฉ่ำอยู่ ไม่แข็งและไม่คาวเลย
ที่อยู่: ต้นซอยสุกร 1 (ตรอกโรงหมู) แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เวลาทำการ: 09:00-14:30 น.
ช่องทางการสั่งซื้อ: LINEMAN
หมายเลขโทรศัพท์: 081-345-2466
9. ออน ล็อก หยุ่น ร้านอาหารเช้าสุดคลาสสิก คนชิค ๆ เขาไปกัน
ร้านออน ล็อก หยุ่น เป็นร้านอาหารที่เปิดมาตั้งแต่ยุค 80’s สมัยที่บรรดาพ่อ ๆ แม่ ๆ ของเรายังเป็นวัยรุ่นวัยโจ๋ ซึ่งปัจจุบันบรรดาวัยรุ่นอย่างพวกเราเองก็ยังคงแวะไปเยี่ยมเยือน เพราะร้านมีความชิค เก๋ ยังคงใช้เฟอร์นิเจอร์เก่า ให้กลิ่นอายเฉพาะตัว โดยอาหารเช้าที่นี่จะเป็นพวก แฮม, ไข่ดาว, ไส้กรอก, กุนเชียง, เบคอน เป็นต้น แต่สามารถมาทานได้ทั้งวันเลยนะ ไม่ใช่แค่ตอนเช้าอย่างเดียว
นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมปังหน้าต่าง ๆ ทั้งขนมปังปิ้งเนย, ขนมปังชุบไข่, ขนมปังสังขยา และอื่น ๆ อีกเพียบ นอกจากนี้ยังมีปังเย็นอร่อย ๆ และเครื่องดื่มทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ไม่ว่าจะเป็นชาจีน, ไมโล และกาแฟให้บริการ ใครอยากสัมผัสฟีลความฮิปปี้ ลองไปดู!
และนี่ก็คือ 9 ร้านอาหารเด็ดดวงในตำนาน ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เป็นอย่างไรบ้างแต่ละร้าน? ตำนานจนละเอียดเลยใช่ไหมล่ะ! รอบหน้า The Joi จะพาเพื่อน ๆ ไปส่องร้านดังย่านไหนอีก ติดตามกันไว้ได้เลย!