ความสวยความงามเป็นของคู่กันสำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะวัยรุ่น หรือรุ่นไหนๆ แม้ความสวยความงามนั้นจะแลกมาด้วยความเสี่ยงกับอันตราย ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 นพ. อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการออกมาโพสต์เตือนภัยผ่านเฟชบุ๊ก Arak Wongworachat สำหรับสาวๆที่ชอบทำตัดแต่งเล็บ ทำเล็บแฟชั่น หลังพบคนไข้รายหนึ่ง อายุ 35 ปี ป่วยติดเชื้อที่นิ้วหัวแม่มือลุกลามเข้าข้อกระดูก ป่วยอักเสบเรื้อรัง จนเสี่ยงนิ้วพิการ เหตุเพราะไปทำเล็บที่ร้านเสริมสวย ที่ช่างติดเล็บปลอมให้ด้วยกาวตราช้าง
โดยคนไข้เป็นหญิงอายุ 35 ปี ไปทำเล็บร้านเสริมความงาม ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการขูดที่ร่องเล็บและตกแต่ง ต่อเล็บปลอมด้วยกาวตราช้าง ผ่านมา 3 วัน รู้สึกปวด แต่ทนเอาและซื้อยามากินเอง เพราะคิดว่าคงไม่น่าเป็นอะไรมาก จนบวมและเริ่มมีไข้ ร้อนที่นิ้วลามจากปลายนิ้วถึงโคน และนิ้วเริ่มงอไม่ได้ จึงตัดสินใจเอาเล็บปลอมออก และพบว่าเนื้อเยื้อขอบเล็บหลุดออกมาด้วย เมื่อมาหาหมอจึงได้รู้ว่า กระดูกนิ้วหัวแม่มือส่วนปลายติดเชื้อ จนลามเข้าข้อและกระดูกต้องผ่าตัดเสียค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท เสี่ยงนิ้วพิการและติดเชื้อ HIV อีกด้วย
ทั้งนี้ด้านของคุณหมออารักษ์ได้ให้ข้อมูลเป็นความรู้เพิ่มเติมของอาการดังกล่าว ว่า อาการของกระดูกอักเสบ แบบเฉียบพลันมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 7-10 วัน แต่อาจเป็นอาการเรื้อรังที่ค่อยๆเกิดขึ้น โดยลักษณะอาการที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักมีความคล้ายคลึงกัน ดังนี้…
1 . มีอาการปวด บวม หรือแดงในบริเวณที่มีอาการติดเชื้อ และอาจพบหนองร่วมด้วย
2 . มีไข้หนาวสั่น
3 . อ่อนเพลีย
4 . คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
5 . ไม่สามารถเคลื่อนไหวบริเวณข้อต่อที่มีอาการได้ หรือเคลื่อนไหวได้ลำบาก
สำหรับสาเหตุของกระดูกอักเสบ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย แล้วแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดจนทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระดูก โดยแบคทีเรียอาจเข้าสู่ร่างกายได้หลายช่องทาง ดังนี้
1 . การติดเชื้อทางกระแสเลือด หรือการติดเชื้อที่ส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อบริเวณปอดหรือกระเพาะปัสสาวะแล้วเชื้อแพร่กระจายไปยังกระดูกส่วนต่างๆ ในร่างกายจนผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ เป็นต้น
2 . การติดเชื้อจากแผลเปิด เชื้อโรคอาจเข้าสู่ร่างกายเมื่อเกิดบาดแผลและอาจทำให้เชื้อแพร่กระจายไปถึงกระดูกได้ โดยการเกิดแผลอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น การผ่าตัด การบาดเจ็บ การทำเล็บ เป็นต้น
3 . การติดเชื้อจากเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใกล้เคียง บาดแผลที่เกิดขึ้นอาจอักเสบจนลุกลามไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่างๆ แล้วแพร่กระจายไปยังกระดูกที่อยู่ใกล้เคียงกันด้วย